หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ท่านเป็นพระเกจิ ศึกษาร่ำเรียนวิชาอาคมที่ถ่ายทอดมาจากสายวัดประดู่ทรงธรรมสถานที่รวบ รวมวิชาทางพระพุทธศาสนา พระคาถาอาคมและตำราพิชัยสงครามสืบทอดมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยาและเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อขัน แห่งวัดนกกระจาบ ซึ่งเป็นพระที่เก่งกล้าในวิชาอาคมและเคร่งครัดในธรรม
ท่านได้ถูกถ่ายทอดวิชาโดยโยมสุวรรณบิดาของท่านตั้งแต่เยาว์วัย ผ่านตำราของท่านขรัวแสง วัดเสาประโคน สหธรรมิกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ทำให้ท่านได้ชื่อว่า “หนังดีและมีอาคมขลังมาตั้งแต่รุ่นหนุ่ม” โยมพ่อสุวรรณได้สอนบุตรชายให้หัดเขียนอักขระเลขยันต์ ฝึกฝนท่องคาถาอาคมในวัยเพียง ๗ ขวบ (เด็กชายพรหม อายุ ๒ ขวบ พ่อสุวรรณได้ออกบวชเป็นพระได้ ๑ พรรษา) ความสามารถตามประสาเด็กของบุตรชายเป็นที่พอใจของผู้เป็นบิดา พ่อสุวรรณได้หมั่นพร่ำสอนวิชาอาคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยนิสัยใฝ่รู้ของเด็กชายพรหม ทำให้เข้าใจและแตกฉานในวิชาที่บิดาสอน
ในขณะนั้นท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อขัน หลวงพ่อพรหมจำพรรษาอยู่วัดขนอนเพียงไม่กี่พรรษา โยมบิดาเห็นว่าควรที่จะให้พระบุตรชาย ได้ศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติมจึงได้พาไปฝากตัวเป็นศิษย์ กับหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ซึ่งเป็นพระที่เก่งกล้าในวิชาอาคมแบบไม่เป็นสองรองใครรูปหนึ่ง หลวงพ่อพรหม มีพื้นฐานในวิชามาจากโยมบิดาซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อขันมาก่อนแล้ว หลวงพ่อขันจึงสอนเพียงวิชาการสักอักขระเลขยันต์รูปแบบต่างๆ และเชือกคาดเอว, ผ้าขอด, การลงตะกรุด, เดินธาตุสี่ หลวงพ่อพรหมเรียนวิชาอยู่ไม่นานจากพื้นฐานที่มีมาก่อนนั้น ทำให้ท่านสำเร็จแต่ละวิชาอย่างแตกฉาน ท่านได้อยู่รับใช้หลวงพ่อขันอีกระยะหนึ่งจึงกราบลาพระอาจารย์กลับ เรียกได้ว่าวิชา หรืออักขระเลขยันต์ ตำราการสักยันต์ ท่านได้มาจากหลวงพ่อขันแทบทั้งหมด
ภายหลังแม้อุปสมบทแล้วท่านยังได้ศึกษาหาความรู้จากพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นหลายท่าน เช่น หลวงปู่ฟัก วัดทำเลไทย หลวงปู่อ่ำ วัดงิ้วงาม หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ด้านความเข้มขลังพุทธาคมและสมาธิจิตของท่าน ซึ่งแม้แต่หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง หลวงปู่สี วัดสะแก หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ยังเอ่ยปากให้การยกย่องแทบทั้งสิ้น
- หลวงปู่สี วัดสะแก ซึ่งท่านเก่งขนาดไหนยังชมว่า “ในอยุธยา (ยุค) นี้ เรื่องคงกระพันไม่มีใครเกิน (ท่านพรหม)”
- หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ได้เจอกับหลวงพ่อพรหม ในงานปลุกเสกพระเครื่อง เห็นผ้ายันต์ที่หลวงพ่อพรหม ลงอักขระไว้ หยิบมาดูและบอกว่า “ผ้านี้ท่าน (พรหม) เสกได้ขลังดีจริงๆ”
- หลวงปู่โต๊ะ เจอหลวงพ่อพรหม บอกกับศิษย์ว่า “พระท่านรูปนี้อนาคตจะสำคัญมาก เพราะมีพลังจิตแก่กล้ามากเหมือนพระอาจารย์ยุคเก่าแก่”
เมื่อตอนพรรษาแรกๆหลวงพ่อพรหมได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับหลายเกจิที่ขลังๆในสมัยนั้น และท่านทุ่มเทฝึกกรรมฐานอย่างหนักเพื่อให้ได้ฤทธิ์อภิญญา เพื่อให้สามารถใช้วิชาที่ท่านร่ำเรียนมาอย่างได้ผลและท่านไม่เคยทิ้งกรรมฐานทุกค่ำคืนที่คนเขานอนกันอย่างสุข แต่ท่านก็มีปิติสุขกับกรรมฐานกว่าจะได้จำวัดก็หลังเที่ยงคืนไปแล้วทำเช่นนี้เป็นกิจวัตรเวลาไปปลุกเสกวัตถุมงคลตามที่มีกิจนิมนต์ท่านถึงนั่งปรกปลุกเสกได้หลายชั่วโมงโดยไม่ถอดจากสมาธิ
เคยมีคนถามว่าหลวงพ่อนั่งปรกนานๆไม่เมื่อยขบหรือครับหลวงพ่อบอกว่าไม่ แต่กลับจะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวด้วย เลยทำให้หายสงสัยทำไมหลวงพ่อปลุกเสกแต่ละครั้งถึงนั่งเป็นชั่วโมงๆ ช่วงปลายชีวิตหลวงพ่อก้าวพ้นขั้นอภิญญาไปแล้วท่านจะใช้อภิญญาเพื่อช่วยเหลือศิษย์เท่านั้น ท่านจะมุ่งสู่ทางหลุดพ้นจากวัฎสงสารเป็นส่วนใหญ่เคยมีคนกล้าถามท่านว่าถ้าท่านมรณะภาพแล้วจะกลับมาเกิดอีกมั้ยท่านส่ายหน้านิดๆแล้วเฉไปพูดเรื่องอื่นเลย
หลวงพ่อพรหมมรณภาพอย่างสงบเมื่อวันที่ ๒๗ ม.ค. ๒๕๓๔ สิริอายุ ๗๘ ปี
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล