พระพุทธนิมิตชินราชมัธยมพุทธกาล แห่งเมืองศิลานคร

สวัสดีจ้าวันนี้ เรื่องเล่าชาวสยาม จะพาทุกคนมาศึกษาเรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ตำนาน อภินิหารพระเกจิ ความลี้ลับ ไสยศาสตร์ เพราะในประเทศไทยของเรานั้น ต่างก็มีจุดเด่นทางความเชื่อและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาแหล่งรวมประวัติศาสตร์ที่มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก วันนี้เราขอมานำเสนอเรื่องเล่าของพระพุทธนิมิตชินราชมัธยมพุทธกาล มาให้อ่านเพื่อศึกษากัน ติดตามรับชมกันได้เลย

หากกล่าวถึง หลวงปู่ซุน เกจิแห่งเมืองศิลานครโดยปกติวิสัยท่านตั้งหนุ่มจนแก่เป็นคนชอบคิดชอบสร้าง ชอบทำมากกว่าพูด ไม่ว่าจะยืนเดินนั่งนอน หรืออยู่ในลักษณะอาการใด มักจะครุ่นคิดหาแต่สิ่งที่จะต้องปรับปรุงตกแต่งก่อสร้างขึ้นไว้ให้ปรากฎและเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม จึงไตร่ตรองทบทวนไปมาเฉพาะตัวท่านเองว่า “สิ่งใดๆ อาตมานี้ก็ได้ก่อสร้างมาแล้วมากต่อมาก ยังคงพระพุทธรูปขนาดใหญ่สัก 1 องค์ ก็ยังดีแต่ถ้าสร้างจะสร้างไว้ ณ ที่แห่งใดดีหนอจึงจะสมควรและเหมาะสมคิดแล้วคิดอีกตรองแล้วตรองอีก

หลวงปู่ซุน

ในที่สุดตัดสินใจจะสร้างขึ้นไว้ภายในศิลาแลงกู่บ้านสนาม เพราะแต่ละปีในวันเพ็ญเดือน 5 จะมีประชาชนมารวมกันทำพิธีบูชาสรงน้ำกู่ เสี่ยงทายบั้งไฟดูฝนฟ้ากันมากมายนับหมื่น ทั้งทางด้านตะวันออกดอนกู่ก็มีหนองน้ำขนาดใหญ่ คือหนองศาลาตั้งอยู่ มีน้ำตลอดปีนับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมยิ่งกว่าที่แห่งใด ในคืนก่อนจำวัด ท่านจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า

“บัดนี้ อาตมามีศรัทธาอย่างแรงกล้าและแน่วแน่ที่จะสร้างพระพุทธใหญ่ขึ้นไว้ ภายในบริเวณกำแพงศิลาแลงกู่บ้านสนามเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่คนรุ่นหลัง เพื่อเป็นถาวรวัตถุให้คนได้กราบไหว้บูชาสืบไป ถ้าหากว่าความคิดและความตั้งใจปรารถนา ขอ สิ่งศักดิ์ สิทธิ์ทั้งหลายจงดลบันดาลและบอกกล่าวให้ทราบด้วย”

เหมือนปาฏิหารย์ตอนย่ำรุ่งของคืนวันนั้น หลวงปู่ฯ ฝันไปว่ามีผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ สวมหมวกแบบนักรบสมัยโบราณ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาวนั่งมาบนหลังม้าสีขาวตัวขนาดใหญ่มากมาบอกท่านว่า “ตามที่พระคุณเจ้าอยากจะสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ขึ้นไว้ในบริเวณกำแพงศิลาแลงกู่บ้านสนามนั้น นับเป็นความคิดที่ดีและเหมาะสมยิ่งแล้วขอนิมนต์ท่านดำเนินการได้เลยคนอื่นๆ นอกจากท่านแล้วไม่มี มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะเหตุว่า สถานที่ดังกล่าวนี้ท่านเคยได้สร้างอะไรไว้แล้วในชาติปางก่อน แต่ยังไม่สำเร็จมาในชาตินี้คงสำเร็จเป็นแน่แท้ขอให้พระคุณเจ้า จงตั้งใจทำจริงๆ ”

นอกจากเรื่องความฝันดังกล่าวแล้ว บุรุษผู้นั้นยังได้แจ้งกับท่านหลวงปู่ฯ ต่อไปว่าจะต้ององค์พระพุทธรูปตรงจุดใด บอกขนาดกว้างยาวแท่นฐานพระว่าวัดจากตรงไหนไปทางไหนให้ได้ยาวเท่าไร ปักไม้หลักไว้ให้ครบทั้ง 4 มุม แล้วจงรองขุดดินลงไปดู ถ้าพบกับรูที่หมายเดิมในชาติก่อนๆ จึงเป็นที่ที่ถูกต้อง ท่านหลวงปู่ฯก็ได้แอบวัดขนาดในสถานที่ตามฝัน แล้วขุดดินลงไปดูก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปเจอกับร่องรูตามฝันทั้งสี่มุม อันเป็นรูขนาดใหญ่บนก้อนหินขนาดใหญ่อีกด้วย เรื่องแปลกแต่จริงจึงทำให้ท่านหลวงปู่ฯ มีกำลังใจเกิดความกระหายที่จะสร้างพระพุทธรูปใหญ่ขึ้นจริงๆ

ฉะนั้นในวันต่อมาท่านจึงได้เรียกประชุมพระภิกษุสามเณร ครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านตำบลเสือโก้ก ทุกหมู่บ้าน เสนอเรื่องการก่อสร้างพระพุทธรูปใหญ่ขึ้นที่กู่บ้านสนาม แบบก่อสร้างอิฐถือปูน ปรากฏว่ามีเสียงไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง เพราะเห็นว่าเป็นของใหญ่เกรงว่าจะไม่สำเร็จ แต่ในที่สุดด้วยเหตุและผลและการรับรองอย่างแข็งขัน ความตั้งใจอันแน่วแน่ของท่านหลวงปู่ฯ ที่ประชุมจึงตกลงให้ท่านก่อสร้างพระพุทธรูปใหญ่ตามความประสงค์และทุกๆ หมู่บ้านจะให้ความสนับสนุนร่วมแรงร่วมใจจนกว่าจะสำเร็จด้วยนี้งานก่อสร้างพระพุทธรูปใหญ่จึงได้เริ่มขึ้นเมื่อวันเพ็ญ เดือน 3 ปีมะโรง ซึ่งตรงกับพุทธศักราช 2495

ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจาริ : ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

พระพุทธนิมิตชินราชมัธยมพุทธกาล ภาพโดย ข่าวสด

มีการตกลงกันให้แต่ละหมู่บ้านมาช่วยกันปั้นอิฐการนำเกวียนไปขนทรายที่หาดลำชี และอื่นๆ ปรากฎว่าได้รับความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจจากทุกหมู่บ้านและสำหรับนายช่างใหญ่ที่รับเหมาการก่อสร้างอำนวยการควบคุมรับผิดชอบการก่อสร้างได้แก่ นายสุทัศน์ (สิงห์ทอง) อัฒจักร ครูใหญ่โรงเรียนบ้านพลับพลาไชย ตำบลพลับพลาไชย อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ใช้เวลาก่อสร้างพระพุทธรูปใหญ่ ประมาณ 7 ปีจึงแล้วเสร็จ ใช้งบประมาณกว่า 400,000 บาท ขนาดขององค์พระพุทธรูปใหญ่ปรากฏดังนี้ ความสูงจากพื้นถึงยอดพระเศียร 96 ฟุต หน้าตักกว้าง 48 ฟุต พระกรรณยาวจากบนลงล่าง 14 ฟุต พระโอษฐ์ยาว 6 ฟุต พระเนตรข้างหนึ่งๆ ยาวจากซ้ายไปขวา 2.50 ฟุต ตุ่มพระเกศาที่ติดอยู่ตามพระเศียรโดยรอบรวม 6,723 ตุ่ม และได้ถวายพระนามพระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์นี้ว่า “พระพุทธนิมิตชินราชมัธยมพุทธกาล”

ขอบคุณข้อมูลกลุ่มศรัทธาบารมีพระครูสุนทรสาธุกิจ(หลวงปู่ซุน) และเกจิคณาจารสายหลวงปู่ซุน

“หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ” หรือ “พระครูสุนทรสาธุกิจ” วัดบ้านเสือโก้ก ต.เสือโก้ก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม

เป็นยังไงกันบ้างกับหลากหลายเรื่องราวที่เล่าต่อกันมาของตำนานพระพุทธนิมิตชินราชมัธยมพุทธกาล บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อศึกษาเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์ ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

ใส่ความเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า