สวัสดีครัลวันนี้ทีมงานพาทุกคนมาศึกษาเรื่องเล่า นิมิตรครูบาบุญชุ่ม มาให้อ่านเพื่อศึกษากัน ติดตามรับชมกันได้เลย
หากกล่าวถึง ครูบาบุญชุ่ม ญาณสงวโร ท่านได้กล่าวไว้ในใจความตอนหนึ่งว่า อาตมาจำพรรษาอยู่ที่พระธาตุดอนเรือง เมืองพงษ์ เขตพม่า ในพรรษาที่ ๒ อาตมาได้นิมิตเห็นหลวงปู่แก่เฒ่าองค์หนึ่ง อายุประมาณ ๘๐-๙๐ ปี มาเทศน์ให้ฟัง ตอนที่อาตมาได้เข้ากรรมปฏิบัติไม่พูด ๗ วัน ท่านเทศน์สอนเรื่องการปฏิบัติให้มีสติและให้อยู่สันโดษ มีขันติ เมตตา และความเพียร ให้ถึงความพ้นทุกข์ ให้ดับเสียสิ้นชาติ ชรา พยาธิ มรณะ ให้ถึงซึ่งพระนิพพานเป็นที่สุด ท่านเทศน์เป็นภาษาบาลี และแปลเป็นภาษาไทยให้ฟังอย่างชัดเจน แล้วท่านก็เทศน์สอนเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท และเทศน์ให้ฟังอีกหลายอย่าง อาตมารู้สึกปิติและอิ่มเอิบในรสพระธรรมของท่าน อาตมาจึงนึกถึงหลวงปู่องค์นั้นเสมอว่าท่านนั้นเป็นใคร และยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ได้แต่กราบขอพรท่านตลอดทุกวัน
ต่อมาไม่นาน หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ท่านเป็นอาจารย์องค์สุดท้ายของอาตมา ที่ท่านได้ส่งตัวอาตมาไปทำความเพียรที่ภูเขาหิมาลัย ประเทศเนปาล แล้วท่านก็ไปรับกลับมาบวชพระที่เชียงใหม่ และอาตมาก็มาจำพรรษาที่พม่า พอดีอาตมามาทำบุญคล้ายวันเกิดวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๓๑ อาตมาได้อาราธนานิมนต์หลวงปู่โง่นได้โปรดเมตตามารับเครื่องไทยทานในวันที่ ๔
หลวงปู่โง่นค้างคืนที่พระธาตุดอนเรือง ท่านได้เอ่ยถึงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าเป็นพระที่มีเมตตาองค์หนึ่งในอยุธยา ได้เป็นพระอริยบุคคลองค์หนึ่ง อาตมาได้ยินก็อิ่มเอิบ ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง อยากจะไปกราบไหว้บูชาพระองค์นั้น…
พอดีอาตมาได้ไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดหลวงปู่โง่น พอเสร็จก็ขออนุญาตหลวงปู่โง่นไปกราบหลวงปู่ดู่ หลวงปู่โง่นก็อนุญาต และเขียนจดหมายกำกับไปด้วย พอไปถึงวัดสะแกก็เข้าไปกราบหลวงปู่ดู่ ท่านกำลังนั่งรับแขกอยู่ที่กุฏิไม้ พอได้เห็นหลวงปู่ดู่ก็นึกขึ้นได้ เหมือนในนิมิตตอนเข้ากรรม (หลวงปู่เฒ่าองค์นั้นก็คือหลวงปู่ดู่นั่นเอง) จึงก้มกราบขอพรท่าน ท่านก็ให้พรแล้วยังถวายผ้าไตรกับพระพุทธรูป ๒ องค์ รูปเหมือนหลวงปู่ทวด ๑ องค์แก่อาตมา และอาตมาก็ถวายน้ำผึ้งและยา ท่านยิ้มแย้มมีเมตตาที่สุด
อาตมาเอาพระบรมสารีริกธาตุ น้อมถวายหลวงปู่ดู่ ท่านพูดว่า “เราเพิ่งพูดเรื่องพระธาตุเมื่อตะกี้ บัดนี้ท่านเอาพระธาตุมาถวายเป็นนิมิตหมายมงคลยิ่ง” หลวงปู่ก็ให้พรด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ อาตมาได้เอาพระธาตุอีกส่วนหนึ่ง และลูกประคำให้หลวงปู่ปลุกเสกอธิษฐานจิต ท่านมีลูกศิษย์หนุ่มคนหนึ่งอายุประมาณ ๒๖ หลวงปู่ถามลูกศิษย์ว่า “สว่างไหม เห็นชัดไหม มองไปให้ลึกๆ” ลูกศิษย์ก็ตอบว่า “เห็นแล้ว สว่างแล้ว” หลวงปู่จึงปลุกเสก หลับตาอธิษฐานพระธาตุ และลูกประคำ แล้วท่านก็บอกว่า “พระธาตุนี้ไปอยู่มาหลายแห่งแล้ว เคยอยู่ที่พระธาตุนครปฐม และพระธาตุนครพนม” หลวงปู่ท่านสั่งให้เก็บรักษาและบูชาให้ดี อาตมาจึงกราบนมัสการลาหลวงปู่กลับวัดพระธาตุดอนเรือง อาตมาระลึกถึง บูชาพระคุณหลวงปู่อยู่มิได้ขาด
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล