หากกล่าวถึงแม่ซื้อเป็นความเชื่อของคนไทยโบราณเกี่ยวกับเด็ก หมายถึง เทวดาผู้พิทักษ์รักษาประจำตัวเด็ก เพื่อปกปักรักษาไม่ให้เด็กเจ็บป่วย เป็นความเชื่อที่มีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย นอกจากนี้ในสมัยก่อนยังมีการเขียนภาพแม่ซื้อลงในแผ่นผ้าขาว ลักษณะคล้ายยันต์เพื่อแขวนไว้ที่เปลเด็ก โดยเขียนด้วยยางมะเดื่อ และระบายสีแม่ซื้อตามสีอาภรณ์และสีกายของแม่ซื้อประจำวันนั้นๆ และด้านหลังผ้าขาวนี้ ต้องลงภาพท้าวเวสสุวัณทั้งหน้ายักษ์และหน้ามนุษย์ไว้ด้วย เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น

“แม่ซื้อ”เป็นภูตประจำตัวเด็ก มีอยู่ ๗ ตน มีชื่อเรียกต่างๆ กัน
วันอาทิตย์ ชื่อว่า “วิจิตรมาวรรณ” มีหัวเป็นสิงห์ มีผิวกายสีแดง
วันจันทร์ ชื่อว่า “วรรณนงคราญ” มีหัวเป็นม้า มีผิวสีขาวนวล
วันอังคาร ชื่อว่า “ยักษบริสุทธิ์ มีหัวเป็นมหิงสา (ควาย)” ผิวกายสีชมพู
.
วันพุธชื่อว่า ” สามลทัศ” มีหัวเป็นช้าง ผิวกายสีเขียว
วันพฤหัสบดี ชื่อว่า “กาโลทุกข์” มีหัวเป็นกวาง มีผิวกายสีเหลืองอ่อน
วันศุกร์ชื่อว่า “ยักษ์นงเยาว์” มีหัวเป็นโค ผิวกายสีฟ้าอ่อน
วันเสาร์ชื่อว่า “เอกาไลย์” มีหัวเป็นเสือ ผิวกายสีดำ
แม้ว่าแม่ซื้อจะถือว่าเป็นพี่เลี้ยงเด็กก็จริงอยู่ แต่บางครั้งก็ให้โทษได้เช่นกัน มีการแปลงเพศพันธุ์เป็นสิ่งต่างๆ หลอกหลอนให้เด็กตกใจ หรือเจ็บป่วยได้ ดังนั้น เพื่อให้ทารกหายเป็นปกติ จึงมีการจัดพิธี “ทำแม่ซื้อ” หรือ “เสียแม่ซื้อ” ขึ้น บางครอบครัวแม้เด็กจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ยังทำพิธีดังกล่าวอยู่ดี ทั้งนี้ ด้วยเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่เด็ก

”ทำแม่ซื้อ” หรือ “เสียแม่ซื้อ” นั้นหมายถึงพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้เด็กทารกหายจากอาการสะดุ้งผวา หรือการเจ็บไข้ได้ป่วย และได้รับการดูแลรักษาด้วยดีจากแม่ซื้อ การทำพิธีมักจะทำในวันเกิดของเด็ก หากเป็นวันข้างขึ้นก็ให้ใช้วันคี่ ข้างแรมให้ใช้วันคู่
“แม่ซื้อ” แม้จะเป็นเพียงความเชื่อ แต่ก็นับเป็นภูมิปัญญาที่ชาญฉลาดของคนโบราณที่พยายามคิดค้นวิธีการต่างๆที่จะปกป้องลูกหลานของตนให้มีชีวิตอย่างปกติสุข หลีกเลี่ยงการเจ็บไข้ได้ป่วย อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่พ่อแม่ผู้เลี้ยงดูเด็กให้เกิดความเชื่อมั่นได้ขึ้นอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างกับหลากหลายเรื่องราวที่เล่าต่อกันมาของตำนานเทวดาผู้พิทักษ์คุ้มครองเด็ก บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อศึกษาเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติบุคคลคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านผู้มีพระคุณ ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล