หากเอ่ยถึง สืบ นาคะเสถียร เป็นนักอนุรักษ์และนักวิชาการด้าน ทรัพยากรธรรมชาติชาวไทย มีชื่อเสียงจาการพยายามปกป้องแก่งเชี่ยวหลานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง เคยมีชื่อเดิมว่า “สืบยศ” มีชื่อเล่นว่า “แดง” เกิดที่ตำบลท่างาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นบุตรของนายสลับ นาคะเสถียร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กับนางบุญเยี่ยม นาคะเสถียร มีพี่น้องทั้งหมดสามคน ตนเองเป็นคนโต ได้แก่ กอบกิจ นาคะเสถียร เป็นน้องชายคนกลาง และกัลยา รักษาสิริกุล เป็นน้องสาวคนสุดท้อง
ความพยายามของสืบนั้นประสบผลสำเร็จน้อย เพราะผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ให้ความสนใจ ชาวบ้านท้องถิ่นก็สนใจปากท้องมากกว่า จึงรับจ้างผู้มีอิทธิพลเข้ารุกรานป่าเสมอมา สืบเสนอให้สร้างแนวป่ากันชนเพื่อกันชาวบ้านออกนอกแนวกันชน และพัฒนาพื้นที่ในแนวกันชนให้เป็นป่าชุมชนที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ได้ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจเช่นกัน
๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ สืบยังคงปฏิบัติงานตามปกติ และได้เตรียมจัดการทรัพย์สินที่หยิบยืมและทรัพย์สินส่วนตัว และอุทิศเครื่องมือเครื่องใช้ในการศึกษาวิจัยด้านสัตว์ป่าให้แก่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ สั่งให้ตั้งศาลเคารพดวงวิญญาณเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตในการรักษาป่าห้วยขาแข้ง ในช่วงหัวค่ำของสืบยังคงปฏิบัติตัวพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตามปกติดั่งเช่นเคยทำ ครั้นช่วงดึกสืบขอลากลับไปบ้านพัก
นิกฺกุหา นิลฺลปา ธีรา อถทฺธา สุสมาหิตา เต เว ธมฺเม วิรูหนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต : ผู้ไม่คดโกง ไม่พูดเพ้อ มีปรีชา ไม่หยิ่ง มีใจมั่นคงนั้นแล ย่อมงดงามในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว
โดยกลับไปเตรียมจัดการทรัพย์สินที่เหลือและได้เขียนจดหมายหกฉบับ มีเนื้อหาสั้น ๆ ชี้แจงการจบชีวิต จนกระทั่งเช้ามืดวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๓ มีเสียงปืนดังขึ้นจากบ้านพักของสืบหนึ่งนัด จนกระทั่งช่วงก่อนเที่ยงของวันจึงได้มีเจ้าหน้าที่ของกรมฯ เข้าไปดู ซึ่งก่อนหน้าเข้าใจว่าสืบไม่สบาย และเมื่อเข้าไปพบร่างของสืบนอนตะแคงข้างห่มผ้าเรียบร้อย พอเข้าไปใกล้จึงได้เห็นอาวุธปืนตกอยู่ข้าง ๆ และเห็นบาดแผลที่ศีรษะด้านขวา สืบได้จบชีวิตลงอย่างเตรียมตัวและพร้อมอย่างสงบ
สองสัปดาห์ต่อมา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จึงประชุมกำหนดมาตรการป้องกันการบุกรุกป่าห้วยขาแข้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ สืบได้พยายามขอให้ประชุมมาแล้วหลายครั้ง จึงมีผู้กล่าวว่า ถ้าไม่มีเสียงปืนในวันนั้น ก็ไม่มีการประชุมดังกล่าว
เฟสบุ๊คของ แอ๊ด คาราบาว ได้เคยแสดงความคิดเห็นถึง สืบ นาคะเสถียร ในครั้งก่อนไว้ว่า(เก่า) ผู้ที่ แอ๊ด ยกให้เป็นรุ่นพี่ที่ยิ่งใหญ่ โดยมีเนื้อหาใจความที่กินใจแม้จะผ่านไปนานแล้วว่าแอ๊ดบอกพี่ทันทีเลยนะ ถ้าน้องรู้ว่าพวกเขาจะเข้าเมื่อไร พี่จะจับให้หมด ถึงนายพลพี่ก็จับ มันเป็นหน้าที่ของพี่
นี่เป็นคำพูดทิ้งท้ายในวงเหล้าที่พวกเราสนทนากันณ.ร้านข้าวต้มก้นซอยหลังสวน ก่อนการจากไปของพี่สืบราว ๓-๔ เดือน สาเหตุการจากไปของพี่สืบมักจะไม่ค่อยมีใครใส่ใจมากกว่าความเป็น “สัญญลักษณ์ผู้พิทักษ์ป่า” และผมเองก็ไม่อยากฟื้นอดีตที่ขมขื่นในการทำหน้าที่ของพี่ชายท่านนี้ ต่อการรักษาพื้นป่าห้วยขาเเข้ง ที่มีจำนวนพื้นที่ถึง ๔ ล้านไร่ แต่มีงบประมาณเพียง ๔ ล้านบาท เศษเนื้อชิ้นเล็กๆที่สังคมโยนให้เขาเเละลูกน้อง วีระบุรุษหญิงและชายที่ต้องเอาชีวิตตัวเองเข้าเเลก เพื่อการปกป้องทรัพยากรอันมีค่ายิ่งต่อมวลมนุษย์ชาติ(โลกธรรมชาติ)นั้นเทียบไม่ได้กับการพยายามสร้างค่านิยมให้กับพรรคการเมืองของตน เขาใช้เงินกี่แสนล้านเอาใจชาวนา(โลกสมมติ)แต่ในขณะเดียวกันกับทอดทิ้งข้าราชการผู้ทำงานอยู่ชายขอบสังคม ที่ต้องถูกภัยธรรมชาติเเละภัยกดดันจากสังคม กัดกินชีวิตเเละอุดมส์การณ์ลงทีละเล็กละน้อย ไม่มีใครแยแส ไม่มีใครพูดถึงจนกะทั่งเสียงปืนนัดนี้ดังขึ้น ผู้คนจึงพากันเหลียวมอง