เปิดตำนาน “โคตรไอ้เคี่ยมบางมุด” ยักษ์นักล่าแห่งหนองน้ำอำเภอหลังสวน ชุมพร

สวัสดีจ้าวันนี้ เรื่องเล่าชาวสยาม จะพาทุกคนมาศึกษาเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ตำนาน อภินิหารพระเกจิ ความลี้ลับ ไสยศาสตร์ เพราะในประเทศไทยของเรานั้น ต่างก็มีจุดเด่นทางความเชื่อและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาแหล่งรวมประวัติศาสตร์ที่มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก วันนี้เราขอมานำเสนอเรื่องเล่าไอ้ด่างบางมุด มาให้อ่านเพื่อศึกษากัน ติดตามรับชมกันได้เลย

หากกล่าวถึง ไอ้ด่างบางมุด เป็นจระเข้ตีนเป็ด หรือพันธุ์ทองหลาง ตัวดำเมื่อมสนิทมีสีขาวที่คอและตามตัวเวลามันโผล่ลอยตัวขึ้นมาเหนือน้ำนั้นจะมองเห็นสีขาวพาดที่บริเวณคอ ย้อนกลับไปปลายเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ได้ลงภาพแผนที่สังเขปของคลองบางมุด พร้อมคาดการณ์ว่าเป็นเส้นทางที่จระเข้ยักษ์ หรือ “ไอ้ด่าง” ออกอาละวาดท่องเที่ยวล่าคน

ข่าวลงหนังสือพิมพ์

ชาวบ้านทั่วไปมีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับน้ำ สมัยนั้นทางน้ำคือเส้นทางหลักของการสัญจร ณ หมู่บ้านหนองไก่ปิ้ง ตำบลนาขา อำเภอหลังสวน ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟควนหินมุ้ยมีโคตรไอ้เคี่ยมได้ปรากฏตัวในรอบหลายปี โดยได้ไล่กัดคนอาบน้ำและเดินอยู่ตามริมตลิ่ง รวมไปถึงไล่กัดเรือขึ้น-ล่องสัญจรไปมาในคลอง ผู้คนนับพันครัวเรือนต้องขวัญผวา

จากนักล่าเป็นผู้ถูกล่า

จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน จระเข้ตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก และดุร้ายถึงขั้นไล่กัดผู้คนจนชาวบ้านไม่กล้าพายเรือหรือเดินเลาะริมตลิ่ง ต่อมาในกลางเดือนกันยายน เย็นวันหนึ่ง นายอุดม ชาวบ้าน ต.นาขา ลงอาบน้ำในคลอง ถูกจระเข้ยักษ์คาบไปกินต่อหน้าต่อตาต่อหน้าชาวบ้านนับสิบ วันถัดมา นายอิน ชาวเขมรได้นำเรือเล็กไปตัดจากเพื่อนำมามุงหลังคาบ้าน ขณะยืนตัดกิ่งจากอยู่ในเรือ ไอ้เคี่ยมยักษ์ได้พุ่งตัวขึ้นมาบนเรือคาบขานายอินตกลงไปในน้ำอีกคน

ยา กาจิมา ทุคฺคติโย อสฺมํ โลเก ปรมฺหิ จ อวิชฺชามูลกา สพฺพา อิจฺฉาโลภสมุสฺสยา : ทุคติในโลกนี้และโลกหน้า ล้วนมีอวิชชาเป็นรากมีอิจฉาและโลภเป็นลำต้น.

คลองบางมุด

.

นักล่า

นายมง สุวรรณสินธ์ หรือชาวบ้านเรียกลุงมง ผู้เฒ่าวัย ๖๐ เศษ ได้กล่าวว่าสมัยก่อนบริเวณแถบคลองบางมุดอุดมไปด้วยจระเข้ แทบทุกปีต้องมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อ ต่อมามีพวกญวนจากสุราษฎร์ มาจับเอาไปแล่ขาย ทำให้จำนวนลดลง พรานใหญ่ผู้คลุกคลีกับจระเข้ที่หลังสวนตั้งแต่อายุ ๑๓

มีการตั้งรางวัลแปดพันบาท ตั้งทีมไล่ล่ามาจากหลายจังหวัด เช่น ปัตตานี ร้อยเอ็ด อ่างทอง สุราษฎร์ธานี เรือนับร้อยลำก็มุ่งตรงไปที่คลองบางมุด นักล่ามากวิชา ทั้งเวทมนตร์ คาถาอาคม อาวุธมากมาย ทั้งฉมวก ไฟฟ้า ปืน อวน กระทั่งระเบิดก็เอามาใช้ ทั้งนี้ นักล่าจระเข้แต่ละคนก็จะมีความถนัดแตกต่างกัน

ระดมล่า

จนกระทั่งวันที่ ๒๐ พ.ย.๒๕๐๗ ส.อ.จำนงค์ พิมาน พร้อมเพื่อนทหารและหลานชายรวม ๔ นาย ได้ออกแกะรอยตามล่าตัวมันถึง ๒ วันเต็ม จนรู้วังที่มันใช้กบดานในคลองบางมุด จึงได้ใช้ระเบิดที่ประกอบใส่ในกระป๋องจุดชนวนหย่อนลงไปในวังที่มันกบดาน ลูกแรกทำงานพลาดเป้าจระเข้ยักษ์รู้ตัวพยายามจะว่ายน้ำหนี แต่ถูก ส.อ.จำนงค์ ปาซ้ำอีกลูกจนมันได้รับบาดเจ็บสิ้นใจในเวลาต่อมา เมื่อนำตัวมันขึ้นมาและผ่าท้องต้องผงะไปตามๆ กันเมื่อพบหัวกะโหลกมนุษย์อยู่ในท้องมันถึง ๒ หัวด้วยกัน

ด่างบางมุด

จากการวัดจากซากของไอ้ด่าง มีความยาวจากหัวถึงหาง ๔.๒๕ เมตร รอบตัว ๑.๗๕ เมตร เล็กกว่าถังน้ำมัน ๒๐๐ ลิตร ๗ นิ้ว จากหัวถึงคอ ๒๕ นิ้ว อ้าปากกว้าง ๒๐ นิ้ว เป็นอันจบตำนานนักล่าแห่งหนองน้ำคลองบางมุด

เป็นยังไงกันบ้างกับหลากหลายเรื่องราวที่เพจเรื่องเล่าชาวสยามได้นำมาเล่าต่อของตำนานโคตรไอ้เคี่ยมบางมุด บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อศึกษาเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติบุคคลคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านผู้มีพระคุณ ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

ใส่ความเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า