สวัสดีจ้าวันนี้เพจ เรื่องเล่าชาวสยาม จะพาทุกคนมาศึกษาเรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ตำนาน อภินิหารพระเกจิ ความลี้ลับ ไสยศาสตร์ เพราะในประเทศไทยของเรานั้น ต่างก็มีจุดเด่นทางความเชื่อและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาแหล่งรวมประวัติศาสตร์ที่มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก วันนี้เราขอมานำเสนอเรื่องเล่าหลวงปู่จาม มหาปุญโญ มาให้อ่านเพื่อศึกษากัน ติดตามรับชมกันได้เลย
หากกล่าวถึง หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ครั้งหนึ่งท่านเคยเล่าไว้ว่า เมื่อย้อนกลับขึ้นไปภาวนาอยู่ถ้ำพระเมืองเชียงราย ริมน้ำตกไปอยู่แล้วสถานที่ก็ดีแต่ ภาวนาอย่างไรก็ไม่สงบ พิจารณาอะไรก็แล้ว ตรวจตราดูศีลดูวัตรของตนก็ไม่พร่องอะไรสักอันสักอย่าง เราก็ว่าไปตามประสาบ้าของเราว่า

“ผีป่าผีเขา ผีถ้ำ ผีนาค ผีน้ำ ข้าพเจ้ามาอยู่นี้ตั้งใจมาเจริญภาวนาเสาะหาหนทางพ้นทุกข์ หวังให้สูเจ้าได้รับผลอานิสงส์ แต่จิตไม่ลงไม่สงบเป็นเพราะฤทธิ์อำนาจของผีเทวดาตนใด หรือเป็นเพราะความหยาบหนาภายในจิตใจของข้าพเจ้าเอง”
หลวงปู่ว่าแล้วก็เข้ากลดไหว้พระสวดมนต์เจริญภาวนาอยู่ ประมาณสัก ๑๐ นาที บริเวณข้างๆ ปากถ้ำมีหนองหลง เวลาน้ำหลากจากลำกก ก็จะไหลเข้ามาในหนองหลงนี้ คนชาวบ้านไม่มีใครกล้าจับปลาในหนองน้ำนี้ ถ้ำพระก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ หากไปก็ต้องไปกันหลายๆ คน เขาถือว่า ศักดิ์สิทธิ์ ผีขึด ผีเข็ด ผีขวง เรานั่งภาวนาไปสัก ๑๐ นาที มีเสียงดังบึกๆๆ อยู่กลางหนองน้ำ ผักตบลอยน้ำก็ก็หมุนวนเหมือนกับน้ำบิดคอไก่ เราก็นั่งมองอยู่มันเสียงอะไรกัน “ บึกๆๆ ”
ก็ลืมตามอง สักพัก งูใหญ่โผล่หัวลำคอขึ้นสูงประมาณ ๓ เมตร กลางหนองน้ำ ลำตัวมันใหญ่ขนาดกระบุง ข้าวเปลือกจุหมื่น หงอนแดง สีตัวมันเลื่อมเป็นพรายแสงยิบยับ เราก็ถามมัน
หลวงปู่จาม “โยมเป็นนาคน้ำหรือ”
เขาก็หันหัวมองหาเรา“ ถูกแล้ว ท่านพระคุณเจ้าพญาธรรม ”
หลวงปู่จาม “มาธุระอันใด”
นาคน้ำ : “ได้ยินเสียงลั่นท้องฟ้าบาดาลสนั่นหวั่นไหว เหมือนพิภพจะถล่มจมพินาศ แต่เมืองบาดาลไม่มีอะไร ก็เลยขึ้นมาดู เห็นพระคุณเจ้าพญาธรรมอยู่นี่พอดี”
หลวงปู่จาม “แล้วอย่างใด”
นาคน้ำ : “พระคุณเจ้าว่าภาวนาจิตไม่สงบ ไม่เกี่ยวกับผีน้ำ นาคป่าเขาแต่อย่างใด อยู่ที่จิตใจของเจ้าพญาธรรมที่เดียว”
หลวงปู่จาม “เออ… ขออโหสิกรรมเน้อ อาตมาก็ว่าไปอย่างนั้นเอง นึกว่าจะไม่ไปกระทบใคร ถ้าหากรู้ว่าจะเบียดเบียนผู้อื่นก็จะไม่ว่าจาเด็ดขาด ขออภัยเถิด”
นาคน้ำ “พระคุณเจ้าผู้พญาธรรม มาอยู่บริเวณนี้ ผมรู้เห็นตั้งแต่ล่องแพมา ลงมาแล้วก็ได้แต่อนุโมทนาสาธุการยินดีพอใจในการบำเพ็ญสมณธรรมของเจ้าพญาธรรมมาโดยตลอด”
หลวงปู่จาม “เอาล่ะ ดีละ ให้สุขเจริญต่อไปเถิด”
ว่าแล้วเขาก็ค่อยๆ จมลงๆ น้ำก็นิ่งเงียบอย่างเดิม เราก็กำหนดภาวนาของตนต่อไป
ในนิมิต จึงรู้ได้ว่านาคน้ำตนนี้เป็นเจ้านายนาคแถบถิ่นนี้ บำเพ็ญบารมีของตนต้องการที่จะเป็นพระอสีติสาวกของพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคตข้างหน้า เขาเป็นนาคน้ำมาได้แต่ยุคศาสนาของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ ๔ พุทธันดรมาแล้ว ในกาลภายหน้า ยุคพระศรีอาริยะเมตไตรโย มาตรัสรู้ เขาจึงจะได้เป็นมนุษย์เกิดตายบำเพ็ญบารมีอีกต่อไป

และระลึกเห็นอดีตชาติที่ผ่านมาของ “ถ้ำพระเมืองเชียงราย” แต่ก่อนเก่าโบราณในยุคสมัยของพระพุทธเจ้าโกนาคมโน หลวงปู่จาม พ่อขาวสง่า ดาบส ท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) กับเจ้ากาวิละเชียงใหม่ พากันบวชเป็นฤๅษีดาบสโกนผม นุ่งขาวห่มขาว รักษาศีล ๘ บำเพ็ญอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต มีอาจารย์ฤๅษีซานเหาะมาแต่เมืองยอร์น ภูเขาสูงสุดของเมืองยอร์นมาสอนกสิณให้ ฤๅษีตนนั้นมาเกิดเป็นท่านอาจารย์ชอบ ฐานสโม ชีวิตนั้นได้กสิณฌาน ออกเสาะหาขอบิณฑบาตมากินอย่างพระภิกษุในยุคสมัยนี้ ไปทิศใครทิศมัน ได้มาแล้วก็เอามาแบ่งกันกิน ท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) กับพ่อขาวดาบส รับหน้าที่สอนผู้คนชาวบ้านชาวเมือง เจ้ากาวิละไปปรนนิบัติรับใช้ฤๅษีผู้เป็นอาจารย์อยู่เมืองยอร์น
ส่วนหลวงปู่จาม รับหน้าที่สอนพวกนาคน้ำ พวกผี จึงเข้าใจเหตุที่ นาคตนนั้น เรียกว่า “เจ้าพญาธรรม”เกิดตายว่ายเวียนอยู่ในโลกนี้ มันต้องมีเหตุปัจจัยให้ได้เกี่ยวข้องกัน จึงเรียกว่า กรรม กรรมของตน กรรมร่วมกับคนอื่น ยังปลดภาระของกรรมไม่ได้ ก็เกี่ยวพันกันไปตามบุพกรรมของเก่านั่นแหล่ะ
ภพชาติเกิดตาย ภพภูมิที่เกิดมาหากใครยังไม่เชื่อก็ช่างใจเขา มิใช่ใจเรา คนที่ยังไม่เชื่อนั่นหละทำชั่วได้สบายกว่าเรา แต่เราผู้เชื่อ ผู้รู้เห็นเกิดตายผ่านมา ก็เชื่อตนเอง เพราะมีเครื่องคอยตักเตือนตนอยู่เสมอ ความดีมาอย่างใด… ความชั่วมาอย่างใด ”
ธรรมะประวัติองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ตอนที่ ๖๓ (วัดป่าบ้านห้วยทราย) บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ๑๔
เป็นยังไงกันบ้างกับหลากหลายเรื่องราวที่เพจเรื่องเล่าชาวสยามได้นำมาเล่าต่อของตำนาน หลวงปู่จาม มหาปุญโญ บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อศึกษาเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติบุคคลคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านผู้มีพระคุณ ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล