หากกล่าวถึง“พระสยามเทวาธิราช” สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ด้วยพระองค์ทรงมีความเชื่อว่า บ้านเมืองย่อมมีเทวดาคุ้มครองรักษา รวมถึงองค์พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์จักรี ตลอดจนประชาราษฎร์ที่อาศัยในแผ่นดินให้อยู่รอดปราศจากภยันตรายต่างๆ ที่ใหญ่หลวงมาแล้วทุกยุคทุกสมัย ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ประเทศต่างๆ ในภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ในสมัยนั้น เช่น พม่า เวียดนาม มาเลเซีย ล้วนถูกชาวยุโรปเข้าปกครองและยื้อแย่งอำนาจไปจนสิ้น ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส คงเหลือเพียง “ประเทศไทย” เท่านั้น ที่อยู่รอดปลอดภัยและเป็นเอกราชมาโดยตลอด
พระองค์มีพระราชดำริว่า “พระปรีชาสามารถในการรักษาประเทศนี้ ชะรอยจะมีเทพยดาองค์ใดองค์หนึ่งคอยพิทักษ์รักษาบ้านเมืองไว้เป็นแน่แท้” จึงมีพระราชประสงค์จะทำเทวรูปของเทวดาพระองค์นั้นไว้บูชาด้วยพระกตัญญูกตเวที และถวายพระนามว่า “พระสยามเทวาธิราช” โปรดอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งทรงธรรม ในพระบรมมหาราชวัง
ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดให้อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งไพศาล ทักษิณ ในพระบรมมหาราชวังเช่นกัน มีความเชื่อกันว่า พระสยามเทวาธิราช ทรงเป็นประมุขของเทพารักษ์ที่ปกปักษ์รักษาบ้านเมือง มีเทพบริวารสำคัญ ได้แก่ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และพระหลักเมือง
พระสยามเทวาธิราชเป็นเทวรูปยืน มีขนาดความสูง 8 นิ้ว หล่อด้วย “ทองคำ” ทั้งองค์ ซึ่งเป็นสีประจำราชวงศ์จักรี ทรงเครื่องกษัตริย์ สวมมงกุฎ พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นเสมอพระอุระในท่าประทานพร เป็นที่เชื่อกันว่า “พระสยามเทวาธิราช” เป็นเทพยดาศักดิ์สิทธิ์ที่อภิบาลรักษาประเทศไทย องค์พระมหากษัตริย์ และ ปวงชนชาวไทยมาโดยตลอด ดังนั้น ในทุกๆ ปีจะมีพระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช โดยกำหนดไว้ในปฏิทินหลวงให้ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งตามประเพณีนิยมถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติแบบโบราณอนุวัติ และทำสืบทอดกันมาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 มาทุกๆ รัชกาล
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล