การแปรสภาพกลายเป็นพระธาตุ เส้นพระเกศาจริงที่นำมาทอในหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพระสังฆราชฯ 

หากกล่าวถึง พระธาตุ เป็นที่พบเห็นกันเสมอว่าผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไม่ว่าพระหรือฆราวาส ของที่เกี่ยวเนื่องกับสังขารท่านเช่น ผม เล็บ หรือกระดูกจะสามารถแปรเป็นพระธาตุได้ ในหลายกรณีพบว่าในส่วนของเกศานั้นมักแปรสภาพได้ตั้งแต่สมัยที่บุคคลท่านนั้นยังมีชีวิตอยู่

พระเกศาธาตุ จาก จ.ลพบุรี และระยอง

การแปรสภาพของเส้นผมตลอดจนส่วนอื่นๆนั้นเป็นระดับของบุคคลที่บรรลุธรรมชั้นพระอนาคามีและพระอรหันต์ ทั้งนี้ต้องเป็นพระอริยะเจ้าที่ชำนาญในฌานหรือเป็นที่รักของเหล่าเทวดาและบางท่านอาจตั้งจิตอธิษฐานเอาไว้ให้ธาตุของตนเป็นพระธาตุเพื่อเป็นที่สักการะของมนุษย์และเทวดาเป็นไปเพื่อให้เกิดกุศลทำให้ผู้กราบไหว้ได้บุญเป็นทุนไปสู่สุคติภพ

การแปรสภาพของเส้นเกศามีหลายลักษณะดังนี้

1 แปรโดยเข้ามารวมกันจนเป็นก้อนกลม
2 แปรโดยเส้นเกศาขย่งตัวมาเกาะกันแล้วเกิดเป็นเม็ดพระธาตุขึ้นมา
3 เกิดพระธาตุเสด็จลงมาในเส้นเกศาที่เก็บไว้

ส่วนลักษณะพระธาตุจากเส้นเกศานั้นมีหลากหลายลักษณะเช่นเป็นเม็ดดั่งก้อนกรวด เป็นแก้วใส เป็นสีขาวดั่งมะลิ กล่าวกันว่าการปฏิบัติธรรมเพื่อแผดเผากิเลสนั้นอำนาจจากทั้งทางด้านสมถะฌานและอำนาจจากการพิจารณาของปัญญานั้นนอกจากจะซักฟอกจิตให้บริสุทธิ์แล้วยังมีอานุภาพซักฟอกและแปรสังขารร่างกายให้เป็นธาตุหรือพระธาตุได้ด้วย ยิ่งท่านใดที่ผ่านการเพ่งพิจารณาสังขารมามากและทรงสังขารให้พลังจิตซักฟอกธาตุขันธ์ยิ่งทำให้เส้นผมหรือเล็บของท่านกลายเป็นพระธาตุได้ง่าย

เกศาจริงแปรเป็นธาตุที่นำมาติดบนหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า

ธาตุที่เกิดจากการแปรของสังขารถือว่าเป็นธาตุที่บริสุทธิ์ และถือว่าเป็นธาตุที่ได้ซึมซาบพลังบริสุทธิธรรมอันเกิดจากอำนาจทางด้านสมถะคืออำนาจจากฌาน ๑ถึงฌาน ๔ บางกรณีพระอริยะเจ้าบางท่านยังสามารถเจริญไปถึงอรูปฌาน และสิ่งสำคัญคือ อำนาจฝ่ายปัญญาวิมุตติอำนาจจากพลังแห่งวิปัสสนาที่เพ่งเพียรแผดเผาค้นคว้าหาทางแก้ไขอวิชชาจนสามารถถอดถอนกิเลสน้อยใหญ่ได้ทั้งปวง อำนาจจากสองฝ่ายนี้เมื่อซึมซาบลงไปในส่วนกายสังขารนอกจากทำให้สังขารเปลี่ยนแปลงยังทำให้ธาตุในส่วนนั้นๆ กลายเป็นวัตถุที่มีพลังเหนือโลก สามารถส่งรัศมีคุ้มครองหรือเสริมสร้างสิริมงคลแก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาตลอดจนบ้านเรือนที่อยู่อาศัย

เส้นเกศาของหลวงพ่อถาวร จิตตถาวโร เกิดแปรสภาพก่อนที่ท่านจะละสังขารเป็นเวลา ๓ ปี

ซึ่งอริยะธาตุหรือพระธาตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีพลังเย็นเกื้อกูลในการปฏิบัติธรรม ผู้ที่ได้เห็นได้กราบไหว้ย่อมเกิดแรงบันดาลใจในการหยุดทำความชั่ว อยากสร้างการกุศล ตลอดจนถึงมีกำลังใจในการปฏิบัติให้ถึงวิมุตติธรรมชั้นสูง ทั้งยังมีแรงดึงดูดที่จะนำพาให้พระธาตุองค์อื่นๆจากสถานที่ต่างๆ มาเสด็จอยู่รวมกันอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไป พระราชรัตนมงคล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เคยกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้พระเกศา และพระโลหิตกลายเป็นพระธาตุ ว่าน่าจะมาจากพระปฏิปทาด้านสมาธิกรรมฐาน ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงสนพระทัยฝึกปฏิบัติกรรมมาฐานตั้งแต่ยังทรงเป็นพระเปรียญ การปฏิบัติกรรมฐานเป็นคตินิยมในพระสงฆ์คณะธรรมยุต ที่สืบเนื่องกันมาตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงเน้นให้พระสงฆ์สามเณรพึงปฏิบัติ 2 อย่างให้เคร่งครัด คือคันถธุระ การศึกษาพระคัมภีร์ เพื่อให้มีความรู้ด้านพระธรรมวินัย และวิปัสสนาธุระ การอบรมจิตใจตามหลักสมถะ และวิปัสสนาเพื่อให้รู้แจ้งในธรรม และกำจัดกิเลสออกจากจิตใจจนสามารถบรรลุธรรม

ทั้งนี้สำหรับพระเกศาและพระโลหิตบางส่วนของสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งคณะศิษยานุศิษย์เชื่อว่าแปรสภาพเป็นพระธาตุนั้นพบว่าเส้นพระเกศาและพระโลหิตมีลักษณะเป็นผลึกแก้วใสปะปนอยู่

ขอบคุณข้อมูจาก ทิพยจักร Tnews / postjung

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางเรื่องอาจเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า