สวัสดีครับวันนี้ เรื่องเล่าชาวสยาม ขอนำทุกท่านมาศึกษาเรื่องเล่าตำนานคุณย่าชี นารี การุณ อริยสาวิกาผู้มองเห็นธรรม เรามาติดตามกันได้เลย
หากกล่าวถึง คุณย่าชีนารี ท่านได้สมรสกับนายวันดี ซึ่งมีลูกด้วยกัน 6 คน เป็นหญิง 4 ชาย 2 พอคุณย่าชีนารีอายุครบ 40 ปี ก็มีอารมณ์อยากจะบวชโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนหน้านั้นท่านได้พบองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ องค์หลวงปู่มั่นได้เดินธุดงค์ไปพักอยู่ใกล้บ้านๆและได้สอบถามถึงครอบครัวแล้วท่านก็จากไป
คุณย่าจึงขออนุญาตนายวันดีออกบวช นายวันดีให้ข้อแม้ว่า คุณย่าต้องหาภรรยาให้ซัก 3 คน เมื่อถึงวันบวชนายวันดีก็อนุญาตให้ออกบวช หลวงปู่มั่นท่านทราบด้วยญาณจึงส่งพระมา 3 รูป คือ หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน หลวงพ่อสมบูรณ์ ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก พร้อมด้วยบริขารมาทำการบวชให้ คุณย่าหลังจากบวชชีแล้ว ได้อยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่มั่น โดยท่านให้อุบาย ให้คุณย่าภาวนา นะโมและพุทโธ
ท่านภาวนา ท่านเห็นอดีตชาติขององค์ท่านเองว่า เคยเกิดเป็นชาวรัฐเซีย ไต้หวัน กษัตริย์ ทหาร แต่ไม่เคยเกิดเป็น 3 อย่างคือ เสือ ไส้เดือน กิ้งกือ หลังจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ นิพพาน ได้มีการจัดงานประชุมเพลิงที่วัดป่าสุทธาวาส คุณย่าเล่าให้ฟังว่าในงานประชุมเพลิงมีเทพธิดามาร่วมถวายเพลิง 30,000 องค์ ท้าวมหาพรหม 6 องค์ เทพบุตรมา 2 องค์ เกือบทุกชั้นมีเทพประธานมากำกับด้วย ท่านเห็นแล้วชื่นใจ
หลังจากประชุมเพลิงเสร็จ ศิษยานุศิษย์องค์หลวงปู่ได้เข้าไปแย่งขี้เถ้า อัฐิ ตัวคุณย่าเองก็เข้าไปล้วงกับเค้า ได้อัฐิส่วนซี่โครง เศษอัฐิ และอังคาร มา เมื่อคุณย่าเก็บรักษาต่อมา ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุแก้วใสหมด หลังจากนั้นท่านก็อยู่วัดป่าสุทราวาสเรื่อยมา เมื่อปีพ.ศ. 2520 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชนีนาถมีศรัทธาสร้างกุฏิ ถวายใหม่
สมเด็จพระเทพมาครั้งใดจับแขน จับขาคุณย่า เห็นคุณย่านุ่งห่มผ้าขาวแทบจะเป็นดำ ก็เข้าไปจัดแจงจะให้คุณย่าเปลี่ยนชุดใหม่ ถึงกับทรงจะผลัดให้เอง คุณย่าต้องห้ามไว้ ท่านเล่าด้วยความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ หลังจากท่านอยู่วัดป่าสุทธาวาสมานาน ท่านก็ย้ายไปจำพรรษาหลายที่ เช่น วัดป่าวังน้ำทิพย์ จนองค์ท่านได้มาหยุดที่สำนักชีบ้านหนองยาง จ.สกลนคร โดยมีคุณยายสมร และคุณตาเพลินเป็นผู้ดูแล หลวงปู่คำคะนิงในอดีตชาติเป็นพี่ชายขององค์ท่าน ในชาติปัจจุบันนี้ท่านก็มาเยี่ยมเยียนเป็นประจำ และได้นำประคำที่อยู่กับองค์ท่านมาตั้งแต่สมัยออกปฏิบัติธรรมใหม่ๆให้แด่คุณย่า
หลวงปู่หลุย จันทาสาโร นับถือคุณย่าเป็นแม่ เพราะในอดีตชาติคุณย่าเป็นแม่ขององค์หลวงปู่ หลวงปู่จะกล่าวชมให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านเป็นแม่ขาวแม่ออกที่ปฏิบัติธรรมจนเห็นธรรม หลวงปู่หลุยท่านรักและเคารพคุณย่ามากถึงขนาดทำที่ครอบฟันปลอมให้และส่งปัจจัยจำนวน 10,000 บาท ให้คุณย่าทุกเดือน หลวงปู่หลอด ปโมทิโต เคารพในคุณธรรมคุณย่าและมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ
ตอนที่คุณย่าจะนิพพาน หลวงปู่ถวายปัจจัยให้คุณย่า 20,000 บาท หลวงปู่หลุยและหลวงปู่หลอดกล่าวว่าที่ท่านมีทุกวันนึ้ได้ก็ เพราะขี้มือคุณแม่นั้นแหละ
ก่อนวันที่ท่านจะนิพพาน ท่านมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ สติแจ่มใสมาก ท่านบอกให้คุณยายสมรเตรียมน้ำมารับพระเถระบนกุฏิ คุณยายสมรเตรียมน้ำมาแล้วไม่เห็นใคร ท่านก็บอกให้เอาขึ้นมา พระเถระมาเต็มกุฏิแล้วหลังจากนั้นวันต่อมา คุณย่าได้จับมือคุณยายสมร และคุณตาเพลินได้สั่งเสียไว้ว่า ถ้าท่านนิพพานแล้วอย่าทิ้งคุณย่าเขียนน่ะ(ผู้ดูแลคุณย่าตั้งแต่สมัยวัดป่าสุทธาวาส)
คุณยายสมรและคุณตาเพลินรับคำ ท่านทรงสติมาก แล้วท่านก็ยิ้มงามมาก ยิ้มอย่างไม่อาลัยอาวรณ์ ไม่สนแก่การตาย
พอท่านยิ้ม ลมหายใจและหัวใจก็หยุดเต้น ท่านเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2542 เวลา 20.25 สิริอายุขัย 123 ปี อยู่ในเพศแม่ชี 83 ปีพอดี ในวันประชุมเพลิงมี หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป เป็นประธานในฝ่ายบรรพชิต ถวายเพลิง เมื่อไฟไกล้จะมอดเห็นดวงไฟสีเขียว พุ่งออกมา เมื่อเก็บอัฐิพบว่า อัฐิคุณย่าแปรสภาพเป็นพระธาตุทันทีหลังจากประชุมเพลิงเสร็จ
ธรรมโอวาท
“ศีลนั้นแสดงถึงความเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจอันสูง เพราะหากทำลายศีลเสีย ก็เท่ากับว่าทำลายความเป็นมนุษย์ ที่ปราศจากความดีทั้งหลาย”
“เมื่อจิตเป็นสมาธิ จิตหยุดนิ่ง อารมณ์มันน้อย ปัญญาจึงมีโอกาศเกิดขึ้นได้”
“ให้มีสติรู้เท่าทัน(อุปาทาน)หยุดมันเสียมันก็จะนิ่งสนิทอย่างเดิม เป็นอารมณ์เดียว”