หากกล่าวถึง หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านเป็นลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายของ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ท่านเป็นผู้ที่ได้ทำคุณประโยชน์อย่างสูงต่อพระพุทธศาสนา ปฏิบัติกิจ ของสงฆ์อย่างไม่หยุดยั้ง และทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายธรรม อบรมสมาธิภาวนาให้กับพุทธบริษัทในสถานที่ต่าง ๆ มาตลอด
ปกติแล้ว หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านเป็นพระที่สนใจใฝ่รู้ในศาสตร์ต่างๆ หลายศาสตร์ ซึ่งท่านจะย้ำอยู่เสมอว่า ท่านศึกษาเพื่อพิสูจน์ความจริงให้หายข้องใจ เมื่อรู้แล้ว…หายสงสัยแล้วก็เลิก เช่น วิชาหนังเหนียว หรือศึกษาเรื่องการสะกดจิต (เพราะใกล้เคียงกับเรื่องสมาธิ) แล้วนำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรค
“คำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีที่ไหนที่ท่านสอนให้มนุษย์เบียดเบียนซึ่งกันและกัน มีแต่สอนให้รักกัน“
วิชาโหราศาสตร์ก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่หลวงพ่อพุธได้ศึกษาอยู่บ้าง ดังที่เคยมีผู้กราบเรียนถามท่านว่า”โหราศาสตร์หรือหมอดูนี่เชื่อได้หรือไม่?”
ท่านตอบว่า “หมอดูก็คู่หมอเดา แต่วิชาโหราศาสตร์ก็เป็นวิชาที่มีความจริงของเขาอยู่ อย่างไรก็ตาม คนที่ภาวนา หมอดูดูไม่แม่นหรอก”
ถึงแม้ว่าหลวงพ่อพุธพอจะมีความรู้เรื่องโหราศาสตร์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยเห็นท่านพยากรณ์หรือดูหมอให้ใครเลยสักครั้ง จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเมื่อในวันหนึ่ง ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๔๐ พระในวัดได้จัดตู้หนังสือในกุฏิของหลวงพ่อพุธและได้พบกับเศษกระดาษแผ่นเล็กๆ แผ่นหนึ่ง ซึ่งท่านได้เขียนกราฟชีวิตของท่านเองไว้ โดยขีดวงกลมล้อมรอบที่ตัวเลขอายุ ๗๘ และเขียนพยากรณ์ไว้ว่า ‘เตรียมตัวได้ ชีวิตต้องสิ้นสุด’ ต่อมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๑ หลวงพ่อพุธอาพาธหนัก
ช่วงนั้นหลวงพ่อพุธจึงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล พระที่มีหน้าที่อุปัฏฐากเล่าว่า หลวงพ่อจะเดินจงกรม นั่งสมาธิและเพ่งแร่สะกดจิต พิจารณาอาการต่างๆ ของร่างกาย เพื่อใช้พลังจิตรักษาตนเองควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์อยู่เกือบตลอดเวลา แต่แล้วในช่วงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๒ หลวงพ่อพุธได้พูดขึ้นว่า”เราพิจารณาดูแล้ว ปอดของเรามันพรุนไปหมด ใช้การไม่ได้แล้ว”
จนในที่สุดการมรณภาพอย่างสงบเมื่อ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๔๒ สิริอายุ ๗๘ ปี ตรงกับที่ท่านได้พยากรณ์ไว้