สวัสดีครับวันนี้ เรื่องเล่าชาวสยาม ขอพาทุกคนมาศึกษาเรื่องเล่าตำนาน อดีตเสือกลับใจหลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ พระเกจิผู้คงแก่เรียน มีเมตตา มากด้วยวิทยาคมจากพระอาจารย์ดังต่างๆ มาติดตามกันได้เลย
หลวงปู่ปรง เดิมท่านชื่อ ปรง ปิ่นทอง เกิดปีมะเส็ง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๘ เป็นบุตรของคุณพอปั้น ปิ่นทอง เเละคุณเเม่ปลีก ปิ่นทอง มีพี่น้องสามคน คนเเรกชื่อ นายโป้ย ปิ่นทอง คนรองชื่อนางเปล่ง จงกสิกรรม หลวงปู่ปรงเป็นคนสุดท้อง ท่านได้เข้าอุปสมบทครั้งเเรกเมื่อพ.ศ.๒๔๖๘ ที่วัดห้วยเจริญสุข มีหลวงพ่อพระครูศรี วิริยะโสภิต วัดพระปรางค์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อช้ามเเละหลวงพ่อผ่อง เป็นพระคู่สวด เรียนวิชากับหลวงพ่อศรีได้ ๖ พรรษา จากนั้นได้ลาสิกขาเพราะร้อนวิชา ออกมามีครอบครัวเเละใช้ชีวิตเเบบฆราวาส มีบุตรชายหนึ่งคน
ครั้งหนึ่งเคยใช้ชีวิตแบบเสือและนักเลง ภายหลังกลับใจมาบวชอีกครั้ง หลวงปู่เข้าอุปสมบทครั้งที่สองปีพ.ศ.๒๕๐๔ ที่วัดราชประสิทธิ์ จ.สิงห์บุรี มีหลวงพ่อเตี้ยมเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้น ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดธรรมเจดีย์ ๓๐ พรรษา
ยถา ยถา ยตฺถ ลเภถ อตฺถํ ตถา ตถา ตตฺถ ปรกฺกเมยฺย.
พึงได้ประโยชน์ในที่ใด ด้วยประการใดๆ ควรบากบั่นในที่นั้น ด้วยประการนั้น ๆ
หลังจากบวชครั้งที่สองปี พ.ศ.๒๕๐๔ หลวงปู่จำพรรษาที่วัดธรรมเจดีย์ โดยตัดทางโลกสิ้นเชิง สมัยนั้นทางกองปราบเคยส่งมือดีมาปราบท่าน เพราะท่านเคยมีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำ ทางการส่งคนปลอมตัวมาแบบสามัญชน มาหลอกถามท่านว่า บวชทำไม จะสึกหรือไม่ หลวงปู่ตอบไปว่า บวชครั้งนี้ ขอบวชให้พระพุทธองค์ จะไม่ขอลาสิกขาอีกแล้ว จนกว่าจะถึงฝั่งพระนิพพาน คนที่ปลอมตัวมา เห็นหลวงปู่พูดจาจริงจังดังนั้นจึงไม่ทำอะไรท่าน และได้ลบชื่อหลวงปู่ออกจากรายชื่อบัญชีดำ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังดังที่ท่านได้กล่าวออกไป
หลวงปู่ได้ออกธุดงค์ไปทางจังหวัดอุทัยธานี เข้าสู่ป่าใหญ่ ออกไปถึงประเทศเขมรเป็นเวลา ๓ ปี จึงกลับมายังวัดธรรมเจดีย์ได้บวชเรียนเเละศึกษาวิชาต่างๆกับ
- หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ๖ พรรษา
หลวงพ่อต้วม วัดสนามชัย ชัยนาท
หลวงพ่อคำ จ.อุทัยธานี
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ - หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
หมอเจียก จ.อุทัยธานี
อาจารย์รื่น อำเภอวิเชียร จ.เพชรบูรณ์
อาจารย์อ้วน วัดด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
จากนั้นท่านก็ไปศึกษาตำราเก่าของหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ สมัยนั้นหลวงพ่อทอง เป็นเจ้าอาวาส เดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐที่อุทัยธานี หลวงปู่เก่งวิชาหลายอย่างที่เรียนจากหลวงพ่อศรี เช่น การทำแหวนแขน ลงตะกรุด เช่นตะกรุดสามกษัตริย์ ตะกรุดโทน ตะกรุดสามดอก นอกจากนี้ยังเก่งเรื่องทำผงวิเศษ ทำสีผึ้ง ลงมีดหมอได้ขลัง และเก่งวิชาตะกรุดกระดอนสะท้อน
คุณวิเศษ
- หายตัวได้ หลายครั้งที่ศิษย์พบเหตุการณ์ดังกล่าว เช่นขับรถมาถึงหน้ากุฏิ เห็นหลวงปู่นั่งจารตะกรุด พอลงรถมาถึง จะกราบท่านและนำของมาถวาย กลับมองไม่เห็น พอเดินไปเดินมา หาท่าน กลับเห็นท่านนั่งอยู่ที่เดิม
- ถ่ายรูปไม่ติด หลายครั้งที่ท่านไปงานพิธีต่างๆ มีช่างมาขอถ่ายรูปท่าน บางครั้งหลวงปู่รำคาญ ถ่ายแบบไม่เกรงใจ หรือท่านยังไม่พร้อม พวกช่างเลยกด ชัตเตอร์ไม่ลง บางครั้งถ่ายไปไม่ติดก็เคยมี
- ทำวัตถุมงคลได้ขลัง ท่านเป็นพระ ชอบพระเอง แม้อายุมาก ผ้ายันต์ ตะกรุดจารเอง มีดหมอก็จารเอง
- ลงอาถรรพ์ได้ ในสระที่วัด หลวงปู่ได้ขุดไว้ ให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำอาบและกิน ท่านได้ลงอักขระที่เสาฝังไว้ที่ขอบสระทั้งสี่ด้าน ถือเป็นเขตวัด เขตอภัยทาน ต่อมีมีชาวบ้านบางกลุ่ม ถือวิสาสะ ไม่เกรงใจเขตวัดเขตอภัยทาน มาดักปลาในสระไปทำอาหารกินกัน ต่อมาเกิดอาเพศเดือดร้อนไปตามๆกัน
.
- ท่านเป็นผู้คงแก่เรียน ชอบศึกษา ทำผงได้เก่ง เก่งทางตะกรุด มีดหมอ ลงอาถรรพ์
- วิชาหลายอย่างทำได้แบบหลวงปู่กวย
- ชอบทำวัตถุมงคลเอง ที่หน้ากุฏิหลวงปู่มักนั่งจารตะกรุด
- เขียนผ้ายันต์ คนไปกราบ บางครั้งนั่งลงยันต์ไป นั่งคุยไป เขียนเสร็จ เสกเดี๋ยวนั้นเลยก็มี
.
- ร้อนวิชา หลวงปู่ค่อนข้างร้อนวิชา อย่างที่กล่าว ท่านชอบลงของ ทำของด้วยตัวเอง
- ชอบเลี้ยงสัตว์ หลวงปู่เลี้ยงหมา แมว ไก่ ตอนเช้าๆท่านจะขุนข้าวให้มันเองปรกติหลังหกโมงเย็น หลังจารตะกรุด ท่านจะมาให้ข้าวพวกมัน แมวคลุกข้าวให้กินในกุฏิ หมาจะมีข้าวในอ่างให้ข้างนอก เสร็จกิจ หลวงปู่จะสรงน้ำ ทำวัตรสวดมนต์ ปลุกเสกวัตถุมงคลและปฏิบัติธรรม
- ชอบยิงคันกระสุน ใช้ลูกดินยิงแทนลูกธนู ท่านมักวางไว้ใกล้ตัว สมัยก่อน ใครเคยไปกราบ มักจะเห็นคันกระสุนวางข้างๆตัวท่าน
ขอบคุณข้อมูลจาก watkositaram