ให้โอกาสกลับตัว แต่ไม่กลัวอาญาแผ่นดิน พระเจ้าตากสั่งประห ารทันที

สวัสดีครับวันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยกรุงธนบุรี เสด็จพระราชสมภพ ณ วันที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๒๗๗ ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ ๓ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศพระองค์ทรงเป็นสามัญชน กำเนิดในตระกูลแต้ มีพระนามเดิมว่า สิน พระองค์ทรงเป็นผู้กอบกู้เอกราชของชาติไว้ในขณะที่ราชอาณาจักรศรีอยุธยาพ่ายแพ้แก่พม่า เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐

ครั้งหนึ่งคราวที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกทัพจากกรุงศรีอยุธยาไปรวบรวมไพร่พลทางภาคตะวันออก ก่อนที่จะย้อนกลับไปกอบกู้อิสรภาพ ขับไล่พม่าที่ค่ายโพธิ์สามต้น ระหว่างยับยั้งทัพอยู่เมืองระยอง พระองค์ได้ข่าวว่า มีนายชุมนุมชื่อ ทองอยู่ นกเล็ก กระทำตนเป็นอันธพาลคอยข่มเหงราษฎรแถบเมืองชลบุรี จึงเสด็จทัพไปปราบนายทองอยู่

จึงให้พลทหารเข้าไปหยุดประทับ ณ วัดหลวง ทางไกลเมืองประมาณร้อยหนึ่ง จึงให้นายบุญรอดแขนอ่อน นายชื่นบ้านไข้ ซึ่งเป็นสหายกับนายทองอยู่เข้าไปว่ากล่าวโดยยุติธรรม นายทองอยู่ก็อ่อนน้อมโดยดี นายบุญรอด นายชื่น จึงพานายทองอยู่นกเล็กเข้ามาเฝ้า ณ วัดหลวง

พระองค์ทรงละเว้นอาญา และแต่งตั้งให้นายทองอยู่นกเล็ก เป็นพระยาอนุราฐ ปกครองเมืองชลบุรี คอยดูแลทุกข์สุขของราษฎร

แต่ทว่า นายทองอยู่ก็ยังคงความเป็นโจร แม้จะได้รับโอกาสจากพระองค์แล้ว มิได้กลับตัวกลับใจ กระทำการอันเป็นทุจริต โจรกรรมตีชิงสำเภาวานิช เมื่อพระองค์ทรงทราบข่าว จึงสั่งให้จับตัวมาลงอาญาประหารชีวิต

“..ให้หาพระยาอนุราฐลงมาเฝ้า ณ เรือพระที่นั่ง ตรัสถามก็รับเป็นสัตย์ จึงสั่งให้ขุนนางนายทหารไทยจีนจับพระยาอนุราฐประหารชีวิตเสีย..”

พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรีฉบับหมอบรัดเล, พิมพ์ครั้งที่ ๔, หน้า ๑๘,๓๐

ขอบคุณที่มาเพจ ตามรอย เจ้าตาก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า