สวัสดีครับวันนี้ ขอพาทุกคนมาศึกษาประวัติศาสตร์อีกหนึ่งตำนาน ฆราวาสขมังเวทย์ที่น้อยคนนักจะได้รู้เกี่ยวกับเรื่องราวของท่าน เนื้อหาบทความนี้ได้รับความอนุเคราะห์ให้เผยแพร่ได้ จากหลานแท้ๆของท่านเอง โดยคูณปู่ของท่านก็คือ ปู่แผ้ว ผ่องสว่าง ผู้สืบสายวิชาหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า และยังมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่พริ้ง วัดบางมะกอก เรามาติดตามกันได้เลย
ปู่แผ้ว ผ่องสว่าง เป็นอาจารย์สักยันต์ยุค พ. ศ 2400 กว่าๆ จนถึง พ.ศ 2513 ปู่แผ้วก็เสียชีวิตด้วยโรคชรา สมัยก่อนลูกศิษย์ของปู่เป็นทหารตำรวจเยอะครับ แม้กระทั่ง พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ก็สักยันต์กับปู่แผ้ว เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งเป็นยุคปราบอาจารย์สักยันต์เพราะลูกศิษย์อาจารย์พวกนั้นส่วนใหญ่เป็นเสือเป็นโจรกันเยอะ และ พลตำรวจเอก เผ่า ท่านเป็นคนจับและจัดการโจรและอาจารย์ของโจรไปพร้อมๆกันเลยที่ไหนตรงไหนท่านไปจับเอง
ตามที่พ่อผมและลุงผมเล่าให้ฟังว่า ปู่แผ้วท่านได้เป็นอาจารย์และสักยันต์ให้พลตำรวจเอก เผ่า ในตอนนั้นเพราะท่านมาจะจับปู่ผมและก็อยากจะลองของว่าเหนียวจริงรึเปล่า แกชักปืนยิงปู่ผมบนบ้านที่วัดจันทร์สโมสร บางกระบือ เลยครับแต่ยิงไม่ออกแถมเปลี่ยนกระบอกยิงอีกก็ไม่ออก พลตำรวจเอก เผ่า ถึงเชื่อและนับถือปู่ผมโดยให้ปู่ไปสักให้แก่ที่บ้าน สี่เสาเทเวศร์ และที่สำคัญตอนนั้นยิงออกแต่ไม่เข้าต้องติดคุก
ตอนนั้นคือช่วงปราบอาจารย์สักยันต์ ในตอนนั้นบรรดาอาจารย์สักติดคุกหลายคนอันนี้เป็นเรื่องที่ผมรับรู้มาตั้งแต่เด็กๆแถมสมัยก่อนแถวบางกระบือมีตลาดโต้รุ้งจะมีทหารบ้างนักเลงขาโจ๋มารวมตัวกันทุกคืนมีตู้เพลงเป็นแย่งกันตีกันทุกวันอยู่บ่อยๆ พอมีเรื่องกันก็ซัดกันตะลุมบอนทั้งมีดทั้งปืนทั้งเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง แต่พอรู้ว่ามีครูบาอาจาร์คนเดียวกันก็ปรับความเข้าใจกันไปเพราะศิษย์ปู่แผ้ว จะมีสัญลักษณ์ที่ข้อมือเป็นรูป รอเรือในวงกลม ที่ในรูปภาพจะเห็น รอเรือในวงกลมมีความหมายที่แปลว่า กรมหลวง หมายถึงย่อมาจากเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
เพราะปู่ผมเป็นหลานแท้ๆของหลวงปู่พริ้ง วัดบางประกอก และได้กราบได้เรียนคาถาอาคมจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า. เพราะปู่ผมบวชเรียนอยู่ที่วัดบางประกอกตั้งแต่เณรและเวลาหลวงปู่ศุขมาหาหลวงปู่พริ้งปู่ผมได้มีโอกาสเข้าไปอุุปฐาก สึกจากพระก็มาเป็นทหารแถมเป็นทหารเรือด้วยและอยู่กับเสด็จในกรมด้วยครับ ถ้าปู่ผมมีชีวิตอยู่ตอนนี้ก็จะมีอายุ ๑๑๘ ปีในปีนี้ครับที่เขียนการเป็นอาจารย์สักยันต์สมัยนั้นค่าครู ๖ บาทบุหรี่สายฝน ๑ ซอง ต้องภาวนาด้วยมีศีลมีสัจจะด้วยครับต้องเรียนจริงมีครูจริงครับ. ให้ท่านอ่านกันนี้เพราะหยิบเจอรูปปู่เลยเอามาเล่ากันฟังเป็นเรื่องในอดีตครับ
มันมีเหตุปัจจัยว่าทำไมคนสมัยก่อนเค้าถึงเหนียวยิงแทงแล้วไม่เป็นไร เพราะเค้าเคารพพ่อแม่และครูอาจารย์กันจริงมีสัจจะจริงมีศีลจริงสวดมนต์เสกข้าวเสกน้ำไม่เอาเปรียบไม่ใส่ร้ายไม่นินทาว่ากล่าวใครโดยที่เอาดีเข้าตัวชั่วให้คนอื่นเค้ไม่ด่าพ่อแม่กัน ไม่กินของต่ำ ไม่รังแกใครใส่ร้ายใค รพูดแต่เรื่องจริงความจริงของมันถึงอยู่ถึงขลังถ้าทุกๆคนลองสังเกตดีๆว่าคนสมัยนี้สักยันต์เต็มตัวโดนยิงตายแท่งตายคาที่เลยทั้งนั้น เพราะอะไรเพราะปากไงเพราะศีลไงมันไม่มี แล้วเทวดาครูอาจารย์ที่ไหนจะปกป้องคุ้มครองผมก็นำมาเล่าและก็ให้คิดกันว่า สัจจะ และ ศีล จะคุ้มครองให้ของอยู่กับตัวเราผมมีเรื่องเล่าที่คนสมัยนี้ไม่เคยเห็นแต่ผมเห็นเมื่อตอนเด็กๆอีกเยอะนึกย้อนหลังแล้วก็พบว่าคนสมัยก่อนเค้าของจริงแน่แท้ทุกวันนี้ไม่เห็นเลยครับคนจริงแบบที่ผมเล่าหาไม่เจอ
ได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูลจาก Bannawat Tangjitpermkwamdee
เนื้อหาและภาพบทความนี้สงวนลิขสิทธิ์ ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่เว็บไซต์นี้เท่านั้น