ปู่ชีวกโกมารภัจจ์ ชื่อนี้ฟังดูคงคุ้นหูใครหลายคน หากพูดถึงเรื่องการรักษา ปู่ชีวกถือได้ว่าเป็นปฐมครูการแพทย์แผนโบราณ เป็นที่เคารพนับถืออย่างมากในวงการแพทย์แผนไทย มีความเชื่อกันว่าก่อนทำการรักษา จะต้องกราบไหว้บูชาองค์ครูก่อนทุกครั้ง หรือผู้ที่กำลังป่วย มักไปขอพรบนบานสานกล่าวกับท่าน ซึ่งคนไทยเรามีความเชื่อว่าท่านดลบันดาลปัดเป่าโรคให้หายได้
ชีวกเป็นชื่อหมอใหญ่ผู้เชี่ยวชาญในทางด้านการรักษาในครั้งพุทธกาล เป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระเจ้าพิมพิสาร และพระเจ้าพิมพิสารได้ถวายให้เป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้าด้วย ในตลอดชีวิตของปู่ชีวกโกมารภัจจ์ ได้บำเพ็ญแต่คุณงามความดี ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้โดยไม่เลือกฐานะ
ทั้งยังเคยถวายการรักษาแด่พระพุทธเจ้าในคราวที่พระบาทห้อพระโลหิต เนื่องจากเศษหินจากก้อนศิลาที่พระเทวทัตกลิ้งลงมาจากภูเขา เพื่อหมายปลงพระชนม์ชีพ
ในเช้าวันหนึ่งที่จบการศึกษาจากสำนักตักสิลา อาจารย์มอบหมายงานให้ท่านออกไปสำรวจชายป่า รอบบริเวณสำนักตลอดทั้งวัน เพื่อหาพืชที่ไม่มีสรรพคุณทางยา เย็นวันนั้นหมอชีวกเดินคอตกกลับมาเพราะหาพืชที่อาจารย์สั่งไม่ได้เลย ท่านแน่ใจว่าจะต้องสอบตกเป็นแน่ แต่อาจารย์กลับยิ้ม และกล่าวว่า
“เมื่อเธอตระหนักแล้วว่า พืชทุกชนิดต่างมีสรรพคุณเป็นยาอย่างใดอย่างหนึ่ง เธอก็พร้อมแล้วที่จะออกจากสำนักไปรักษาคนได้”
ชีวิตที่ยังไม่บรรลุธรรมต่างต้องทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น แต่หากมีสัมมาทิฏฐิหรือความเห็นถูกต้อง ประสบการณ์ชีวิตแต่ละอย่าง ไม่ว่าจะน่ายินดีหรือยินร้าย เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ล้วนแต่เป็นประโยชน์ในการศึกษาและปฏิบัติธรรม เพื่อละวางกิเลสและอวิชชา อันเป็นต้นตอของความทุกข์ได้ทั้งสิ้น
หมอชีวกโกมารภัจจ์ ทำประโยชน์มากแก่พระพุทธศาสนาท่านเป็นอุบาสกผู้เป็นพระอริยชั้นพระโสดาบัน พระบรมศาสดา จนได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า เป็นเอตทัคคะ ผู้เลิศกว่าอุบาสกทั้งปวงในทาง “เป็นที่รักของปวงชน”
คาถาบูชา บรมคุรุแพทย์ ชีวกโกมารภัจจ์
นายแพทย์ประจำพระองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(3จบ)
โอมนะโม ชีวะโก สิระสาอะหัง กะรุณิโก สัพพะสัตตานัง
โอสะถะ ทิพพะมันตัง ประภาโสสุริยาจันทัง โกมาระภัจโจ
ปะกาเสสิ วันทามิ ปัณฑิโต สุเมธะโส อะโรคา สุมะนาโหมิ