ปาฎิหาริย์ หลวงพ่ออ่ำ วัดวงษ์ฆ้อง อยุธยา

หลวงพ่อเกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๖ ท่านเป็นพระกรรมวาจาจารย์และอาจารย์ของ หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ยอดพระเกจิเมืองกรุงเก่า

หลวงพ่ออ่ำ ท่านได้ชื่อว่า เป็นพระที่มีเมตตาสูง ในกุฎิของท่านมีสัตว์เต็มไปหมด เปรียบดั่งสวนสัตว์ในวัด ทั้งบนกุฏิทั้งใต้กุฏิ ทั้งหมา แมว วัว ควาย หมู ไก่ สารพัด ทั้งที่คนนำมาฝากวัด และท่านไปไถ่ชีวิตมาจากที่โรงฆ่าสัตว์ แม้แต่เป็นขี้เรื้อน ท่านก็ไม่เคยรังเกียจ

นอกจากนี้ท่านยังเป็นพระที่มีอภิญญา สัตว์ที่ท่านเลี้ยง ท่านมักบอกกับศิษย์ว่า เจ้านี่ชื่อนั้น ต า ย ม าจากแถบโน๊น ต า ย แล้วก็มาเกิดเป็นหมาแมวตัวนี้ ทั้งๆที่สถานที่ที่ท่านพูดก็อยู่ไกลจากวัด

ลูกศิษย์เกิดอยากรู้ไปสอบถามชาวบ้าน ตามสถานที่ที่ท่านว่า ก็ปรากฏมีคนชื่อนั้นชื่อนี้ ต า ย ไปในเวลาที่ท่านว่าจริงๆ บางครั้งหลวงพ่อก็เผลอเรียกชื่อสมัยยังเป็นคน มันก็ขานรับ

ครั้งหนึ่งมีหมาของท่าน ต า ย ท่านว่าหมาตัวนี้ จะไปเกิดแล้ว ท่านก็บอกวันเดือนปี สถานที่จะไปเกิด ลูกศิษย์วัดก็อยากลอง จึงไปตามหาตามที่ท่านบอก ผลปรากฏว่ามีเด็กเกิด ณ วันเวลาเดียวกับที่หลวงพ่ออ่ำท่านบอกไว้จริงๆ จนชาวบ้านที่หาว่า ท่านเพี้ยน ต้องสงบปากสงบคำตามกันไป

มีคนไข้เป็นฝี มาให้ท่านรักษา ท่านก็จะถามว่า จะเอาแตกตรงนี้ หรือ แตกที่บ้าน ถ้าบอกแตกตรงนี้ ฝีก็จะแตกทันที ถ้าบอกแตกที่บ้าน เมื่อกลับถึงบ้านฝีก็จะแตกทันที ท่านมีวาจาสิทธิ์ บางคนเจออุบัติเหตุหรือไม่สบ า ย ป า ง ต า ย แต่ท่านบอกไม่ ต า ย หรอก ก็ไม่ ต า ย ทั้งที่อาการเกือบ ต า ย

หลวงพ่ออ่ำ เก่งกล้าทางด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทางโหราศาสตร์ แพทย์ศาสตร์โบราณ ท่่านสามารถทำนายทายทักผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องนำคนไข้มาหาท่าน แต่สามารถให้ญาติมาจดชื่อยาไปซื้อตามร้านขายยาได้ กิตติศัพท์ของท่านได้ทราบกันทั่วไปในสมัยนั้น

นอกจากจะพระที่มีวิชาอาคมมากแล้ว ยังเป็นพระที่เก่งทางด้านวิชาช่าง แม้แต่ (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส) ยังยอมรับในฝีมือ และได้ร่วมบริจาคปัจจัยบูรณะวัดหน้าพระเมรุ ร่วมกับหลวงพ่ออ่ำ ซึ่งขณะนั้น ได้รับสั่งจากทางคณะสงฆ์ให้มาบูรณะวัดหน้าพระเมรุ

ครั้งหนึ่งหลวงพ่อโดนต้องอธิกรณ์ จากพระที่ไม่พอใจท่าน เพราะท่านเป็นที่เคารพของคนทั่วไป แม้แต่ (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส) ยังนับถือ วันหนึ่งท่านบอกศิษย์ว่า “จะสบายแล้ว ไม่ต้องรับชอบงานหนัก”

หลังจากพูดได้วันเดียวก็มีการป ล้ น บ้านเศรษฐี ตำรวจตามมาก็พบทรัพสิน ซ่อนไว้ในวัด ทำให้ศาสนจักรพวกที่ไม่พอใจ หลวงพ่ออ่ำ กล่าวหาหลวงพ่ออ่ำ ทำอธิกรณ์ฟ้องร้องหลวงพ่ออ่ำ จนท่านต้องย้ายจาก (วัดหน้าพระเมรุ) มาอยู่ (วัดวงษ์ฆ้อง)

แต่ท่านก็ไม่เคยคิดแค้นหรืออาลัยอาวรณ์ ในสมณะศักดิ์ที่ถูกถอดไป แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนไปมาหาสู่ท่านมิได้น้อยลงไปแม้แต่นิด แต่กลับจะมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะท่านเป็นพระใจดี ได้เงินมาก็เอาไปแจกจ่ายให้ญาติโยมที่ยากจน ไปไถ่ชีวิตวัว ควายตลอดจนท่านมรณภาพ

หลวงพ่ออ่ำ มรณะภาพ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๘ ในท่านั่งหลับทำสมาธิ ท่านได้บอกลูกศิษย์ลูกหา ของท่านที่รับใช้ท่านอยู่ว่า พรุ่งนี้ไม่ฉันเช้า ไม่ฉันเพล ไม่ต้องปลุก เพลแล้วจึงค่อยเข้าไปหาในกุฏิ ก่อนจะไปหาในห้อง ให้หาอาหารนก ให้ไก่ ให้แมว ให้สุนัข และสัตว์ที่ซื้อชีวิตเขามาเลื้ยงไว้ในถุนกุฏิ ให้อิ่มเสียก่อนด้วย (ทั้งนี้เพราะสัตว์เป็นอันมากที่ท่านสงเคราะห์ชีวิตไว้ อยู่กันเต็มไปหมดทั้งบนกุฏิและใต้กุฏิ)

วันรุ่งขึ้น ลูกศิษย์ก็ปฏิบัติตามที่ท่านสั่งอย่างเรียบร้อย เหมือนกับที่ปฏิบัติมาทุกวัน แต่ก็นึกแปลกใจว่า วันนี้ทำมัยหลวงพ่อไม่ตื่นออกมาฉันเช้าและฉันเพล ทั้งๆที่อยากรู้ แต่ก็ไม่กล้าถามท่าน พอได้เวลาเลยไปแล้ว คณะลูกศิษย์ก็เปิดประตูกุฏิเข้าไปหาท่านตามสั่ง จึงพบว่า ท่านได้ถึงแก่มรณภาพแล้ว ในลักษณะนั่งสมาธิบนเบาะพิงหมอนขวาน มือทั้งสองของท่านวางที่หน้าตัก ศีรษะเอียงไปข้างหนึ่ง

เมื่อท่านมรณะภาพ ชาวบ้านต่างมากันทั่วทุกสารทิศ เพื่อกราบนมัสการด้วยความเคารพและอาลัย วัดวงษ์ฆ้อง ในขณะนั้นแน่นขนัดไปด้วยสาธุชนที่เคารพในตัวท่าน บุคคลที่เคยได้รับอนุเคราะห์จากท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ที่ไปขอความเมตตาจากท่านนับด้วยสิบๆปี เพราะท่านได้แผ่เมตตาให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ไม่เลือกว่ายากดีมีจน ร่ำรวยหรือยากจนเข็ญใจ แม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉาน จะเห็นได้ว่า ทั้งเป็ด ทั้งไก่ ทั้งหนู เต็มไปทั้งใต้ถุนกุฏิ รวมทั้งวัว ควาย ที่เขาจะ ฆ่ า พอท่านทราบเข้า ท่านก็จะขอบิณฑบาตชีวิตไว้

ถึงจะต้องเสียปัจจัยในการซื้อชีวิตนี้เท่าใดก็ตาม เวลาฉันจึงเห็นจะมีแมวและสุนัข นอนหมอบอยู่ แล้วก็มีจิ้งจกคลานมาขอเม็ดข้าวจากท่าน พอฉันเสร็จลูกศิษย์ก็ยกอาหารใส่ถาดมาวางข้างนอก ตอนนี้จะมีแมว สุนัข นก มารุมกันกินอาหารที่เหลือจากหลวงพ่อมากมายหลายตัวมากจริงๆ

แต่ละตัวต่างก็นั่งกิน นอนกินกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งวิวาทกันเลย ตอนนี้หลวงพ่อมักจะออกมานั่งพิงบานประตูดูสัตว์กินอาหารกันด้วยความเมตตา เศษอาหารที่เหลือจากคนกิน ก็เป็นของหมูใต้ถุนกุฏิที่ท่านขอซื้อชีวิตมา วัวควายกินหญ้า กินผัก ที่มีคนมาให้ นี่ก็เป็นกิจวัตรของท่าน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า