“พระครูนนทสมณวัตร” (หลวงปู่เหรียญ ถาวโร) วัดบางระโหง ท่านถือกำเนิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๙ นามเดิมท่านชื่อ “เหรียญ” โยมบิดาชื่อ นายแดง โยมมารดาชื่อ นางอยู่ นามสกุล “สังฆรัตน์” อยู่ที่ ต.ดอนมะดัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
สมัยหลวงปู่เป็นหนุ่ม ท่านได้ออกจากบ้านมาเป็นคนงานรับจ้งา ทำนาที่อยุธยา มีครั้งหนึ่ง มีคนมาลักเกี่ยวข้าว หลวงปู่พร้อมพวกมีพี่ใหญ่ชื่อว่า “ก้าน” ได้เสกว่านให้พวกหลวงปู่กินแล้วออกไปต่อสู้กับพวกลักข้าว ซึ่งมีอยู่ประมาณ ๒๐ คน ฝ่ายหลวงปู่มี ๗ คน อาวุธมีแค่คันหลาวกับไม้ เท่านั้น
การต่อสู้กับพวกลักข้าวปรากฎว่า ฝ่ายหลวงปู่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแต่ละคน ตี แ ท ง ไม่เข้า จนทำให้พวกลักข้าวแตกกระจายไปหมด
ท่านบวชเมื่อท่านอายุได้ ๓๑ ปี เมื่อวันที่ ๑ กรกฏาคม พ.ศ.๒๔๗๐ อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดขวัญเมือง ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี มี (พระครูชุ่ม) วัดประชารังสรรค์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาทางพุทธศาสนาว่า “ถาวโร”
เมื่อบวชแล้วท่านได้เรียนนักธรรมจนได้นักธรรมเอกที่ จ.ขอนแก่น และได้กลับมาจำพรรษาที่วัดขวัญเมือง มี (หลวงพ่อบัว) ท่านเป็นเจ้าอาวาส ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อบัวท่านกลับจากธุระได้เข้าไปในโบสถ์ โดยที่โบสถ์ยังใส่กลอนอยู่เลย มีศิษย์หลวงพ่อบัวเป็นใบ้ เรียกว่า “ตาใบ้” หลวงพ่อบัวสอนคาถาให้ตาใบ้ สามารถเสกประทัดไม่ให้แตกได้ และเขียนยันต์ที่ฝ่ามือ และตบไปที่เสาแต่ยันต์จะไปโผล่อีกด้านหนึ่งเรียกว่า “นะปัดตลอด”
นอกจากหลวงปู่จะเรียนคาถาอาคมกับหลวงพ่อบัวแล้วหลวงปู่ยังเรียนคาถากับ (อาจารย์เที่ยง) ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันกับหลวงปู่ อาจารย์เที่ยง เป็นคนมีวิชาอาคมขลังและเป็นโยมบิดาของ (พระครูสมุห์บรรจง) วัดขวัญเมืองในปัจจุบัน ตอนหลังพระครูสมุห์บรรจงได้มาเป็นศิษย์ของหลวงปู่เหรียญอีกทีหนึ่ง
หลวงปู่เคยออกธุดงค์ไปในป่าสมัยก่อน หลวงปู่ธุดงค์ไม่ได้ใช้กลดเลย เพราะหลวงปู่บอกว่าท่านฉันบอระเพ็ดเป็นประจำจ นยุงไม่กัดเลย ตอนออกธุดงค์หลวงปู่ได้พบอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลังหลายท่าน หลวงปู่ได้เรียนวิชากับอาจารย์ในป่าหลายอย่าง
เมื่อท่านมาอยู่วัดบางระโหงแล้วนั้น เวลามีงานปลุกเสกตามวัดจะมีฎีกามานิมนต์หลวงปู่บ่อยๆ พระคณาจารย์ที่หลวงปู่ร่วมปลุกเสกประจำคือ (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี), (หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะอง), (หลวงปู่สาย วัดบางรักใหญ่), (หลวงพ่อสุด วัดกาหลง)
วัตถุมงคลของหลวงปู่นั้นที่ปรากฎมหัศจรรย์มากคือ “พิศมร” ที่หลวงปู่ให้เด็กแขวนแล้วเด็กตกน้ำไม่จม หลวงปู่จะทำพิศมรแจกโยมที่มาหรือนิมนต์ไปงาน ส่วนมากจะแจกไปทั่ว คนมาช่วยงานที่วัดท่านก็แจกทุกคนที่มา
ตะกรุดโทนของท่าน แขวนแล้ว ยิ ง ไม่เข้าเสื้อพรุนหมด แต่เนื้อตัวไม่เป็นอะไร ตะกรุดจักพรรดิ์ มีพระวัดจักรวรรดิ์มาบูชาไปฝากศิษย์ที่มาเลเซีย เมื่อศิษย์เอาไปแขวนแล้วโดนทำร้าย ด้วยมีดปาดยางพารา เสื้อขาดหมดแต่ไม่เข้าเนื้อ ทำให้เค้าศรัทธาหลวงปู่มาก
วัตถุมงคลที่หลวงปู่สร้างนั้นมีหลายอย่างมากมาย เช่น ผ้ายันต์ ตระกรุด เบี้ยแก้ พระปิดตา และเหรียญ ด้วยประสบการณ์จากคุณวิเศษที่ได้รับจากวัตถุมงคลของท่าน ก่อเกิดศรัทธามากมาย แต่ความจริงนั้น หลวงปู่เหรียญ เป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใส อย่างยิ่งของประชาชนทั่วไปมานานแล้ว
ครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ด้วยวัตรปฏิบัติที่งดงาม ทั้งเป็นพระนักพัฒนา ที่สร้างความเจริญให้แก่ชุมชนบางระโหงเป็นย่างมากตลอดอายุของท่าน หลวงปู่เหรียญท่านได้สร้างวัตถุมงคลมากมายหลายชนิด ทั้งพระเครื่องและเครื่องราง ที่ขึ้นชื่อว่าดีทางเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด ไม่แพ้พระเครื่องราคาแพงเลยทีเดียว
เรื่องปาฏิหาริย์เกี่ยวกับตะกรุดของหลวงปู่เหรียญนั้น ทั้งคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ต่างเล่าขานกันมากมายว่า “สายเหนียวเมืองนนท์”
หลวงปู่เหรียญท่านเป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง มีเจ็บป่วยบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.๒๕๓๐ หลวงปู่ได้ฉันยาถ่าย แต่ก็ไม่ถ่าย หลวงปู่ปวดท้อง ท่านจึงฉันยาธาตุทำให้ในท้องปั่นป่วนมาก ผู้ใหญ่จึงพาท่านส่งโรงพยาบาลนนทบุรี พักอยู่หลายวันจึงกลับวัด
แต่พักอยู่ได้ไม่นานก็เข้าออกโรงพยาบาลอีกหลายครั้ง และย้ายไปโรงพยาบาลธนบุรี แพทย์วินิจฉัยว่าท่านเป็นมะเร็งปอด ราววันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๑ หลวงปู่ก็อาพาธอีกและได้เข้าโรงพยาบาลสงฆ์ เมื่อไปโรงพยาบาลแล้ว อาการของท่านไม่ดีขึ้นเลย
หลวงปู่ท่านถึงแก่มรณะภาพลง เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๑ สิริอายุได้ ๙๒ ปี ๖๒ พรรษา