วัดเกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาราวปีพ.ศ.2300 มีฐานะแรกเป็นสำนักสงฆ์ตั้งแต่สมัยอยุธยา พัฒนาเป็นวัดเกาะหลักและยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปีพ.ศ.2515
จาก คำบอกเล่าต่อๆ กันมาว่า เจ้าอาวาสที่ชื่อ “หลวงพ่อโสธร” ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกมีวาจาสิทธิ์ ผู้ใกล้ชิดและผู้ที่ผ่านไปมาต่างเคารพนับถือ ด้วยบารมีของเจ้าอาวาสทุกรูป ทำให้วัดเกาะหลักมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง แต่รายละเอียดเกี่ยวกับความเจริญของวัดค้นหาหลักฐานไม่ได้ จนถึงสมัยพระครูสุทธาจารคุณ หรือหลวงพ่ออ่ำ จึงพอมีหลักฐานอยู่บ้าง
หลวงพ่อเปี่ยม เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเกาะหลัก ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ
ท่านเกิดที่บ้านนาห้วย ต.เมืองเก่า อ.ปราณบุรี เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 7 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 25 พฤษภาคม 2426 เวลา 1 ทุ่ม 19 นาที เป็นบุตรคนสุดท้องของนายแก้ว นางหนูลัภธ์ นามสกุล ถาวรนันท์ มีพี่ชายร่วมบิดาคนหนึ่งชื่อนายถนอม และมีน้องสาวต่างมารดาอีกคนหนึ่งชื่อ ละมุน เป็นภรรยาขุนสอนสุขกิจ หรือนายแพทย์ ส.อันตริกานนท์
อายุ 11 ขวบ ได้เรียนวิชาหมอน้ำมนต์กับหมอเขียว ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในทางรดน้ำมนต์ และไล่ผี จนสามารถรดน้ำมนต์คนไข้แทนหมอเขียวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้เรียนวิชาการต่างๆ หลายแขนงจากอาจารย์ต่างๆ ที่มีชื่อเสียง เช่น วิชาปลูกสร้างบ้าน ช่างเขียน ช่างปั้น ช่างหยวก และวิชาอ่านเขียนหนังสือ พยายามฝึกฝนอยู่เสมอจนมีความรู้ ความสามารถดีขึ้นเป็นลำดับ
กระทั่ง อายุครบบวช “นายเปี่ยม ถาวรนันท์” จึงอุปสมบทที่วัดลาด อ.เมือง จ.เพชรบุรี พ.ศ.2446 โดยมี พระครูสุวรรณมุนี วัดพระทรง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดบุญ วัดชีว์ประเสริฐ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า “จันทโชโต”
หลังบวชแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดลาด 5 ปี ระหว่างจำพรรษาได้ศึกษาภาษาบาลี บำเพ็ญสมณกิจ ด้วยความเคร่งครัด และได้ออกไปจำพรรษาที่วัด นาห้วย ซึ่งขณะนั้นมีพระครูสุทธาจารคุณ (อ่ำ) เป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นกำลังสำคัญในการดูแลสร้างโบสถ์วัดนาห้วย จนสำเร็จ
ปี พ.ศ. 2458 พระครูสุทธาจารคุณ (อ่ำ) ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะหลักและเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ท่านได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ ให้ไปเป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนาห้วย และได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ในปีพ.ศ.2459 ระหว่างที่อยู่วัดนาห้วยได้ไปศึกษาวิชาโหราศาสตร์ จากพระสุวรรณมุนี (ชิต) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ จ.เพชรบุรี และเริ่มมี ชื่อเสียงทางโหราศาสตร์ตั้งแต่นั้นมา
หลวงพ่อเปี่ยม ปกครองพระภิกษุสามเณรภายในวัดด้วยคุณธรรม บูรณะและปฏิสังขรณ์วัดปรับปรุงแก้ไขวางผังการสร้างเสนาสนะให้เป็นระเบียบ เรียบร้อยด้วยความสามารถ จนปีพ.ศ.2462 ได้รับตราตั้ง เป็นพระครูชั้นประทวน ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอปราณบุรี และอำเภอเมือง ประจวบคีรีขันธ์ ปีพ.ศ.2463 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสามัญที่ “พระครูธรรมโสภิต” ปีพ.ศ.2465 เป็นพระอุปัชฌาย์ ปีพ.ศ.2467 เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูสุเมธีวรคุณ เจ้าคณะรอง (รองเจ้าคณะจังหวัด) เมื่อพระครูสุทธาจารคุณ (อ่ำ) มรณภาพ คณะสงฆ์ได้ย้ายท่านไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก
ปีพ.ศ. 2473 และต่อมาปีพ.ศ. 2474 ได้รับตำ แหน่งให้เป็นผู้รักษาการในตำ แหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปีพ.ศ.2484 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูเมธีวรคุณ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปีพ.ศ.2484 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ “พระเมธีวรคุณ บุณคีรีเขตต์ ชลประเวศสังฆปาโมกข์” ในตำแหน่งเดิม
การเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก และเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของหลวงพ่อ ทำให้หลวงพ่อมีโอกาสแสดงออก ซึ่งอัจฉริยภาพอย่างเต็มที่ ท่านได้ นำความรู้ความสามารถมาใช้ประโยชน์ในงานต่างๆ มากมาย งานสำ คัญที่ท่านได้ทำ คือการสร้างพระอุโบสถอันวิจิตรงดงามตระการตา การเปิดโรงเรียน นักธรรมและบาลี การสร้างบ่อน้ำ และถังน้ำประปาสำหรับวัด และการปกครองคณะสงฆ์ด้วยคุณธรรม งานทะนุบำรุงและการ ก่อสร้างสังฆาราม หลวงพ่อเปี่ยมทำไว้มาก มิใช่ทำที่วัดเกาะหลักอย่างเดียว แต่ได้ทำในสถานที่อื่นอีกด้วย
หลวงพ่อเปี่ยม มรณภาพเมื่อปีพ.ศ.2492 สิริรวมอายุได้ 66 ปี ด้วยโรคลำไส้พิการ หลังจากนั้นได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเกาะหลัก เมื่อปี พ.ศ.2506 โดยทุกๆ ปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 จะมีงานปิดทองรูปหล่อของท่านและ อดีต เจ้าอาวาสทุกองค์ของวัด