๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖ พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านนำของมาถวาย กราบเยี่ยมแสดงมุทิตาจิตต่อครูบาอาจารย์ ก่อนวันงานทำบุญครบรอบอายุ ๙๒ ปี หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
หลวงปู่ชอบ ท่านมอบหมายให้เราพาพระเณรวัดป่าโคกมนดูแลท่านพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป เราก็พาท่านพระอาจารย์เปลี่ยนไปพักอยู่ที่กุฏิเบอร์ ๔ ของเรา เพื่อความสะดวกในการดูแลต้อนรับอุปัฏฐากครูบาอาจารย์รุ่นพี่
ระหว่างสนทนากันที่กุฏิเบอร์ ๔ วัดป่าโคกมน ที่พักของเรา พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป เล่าเรื่องท่านขอนิมนต์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หายตัวให้ท่านดู ที่วัดป่าสัมมานุสรณ์
พระอาจารย์เปลี่ยนท่านว่า ตอนนอกพรรษาปี ๒๕๑๑ ท่านออกจากบ้านปง ไปปฏิบัติอยู่กับหลวงพ่อบุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ที่บ้านแม่หลอด อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
ท่านมาพักภาวนาอยู่ที่บ้านแม่หลอดได้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง หลวงพ่อบุญฤทธิ์ก็เลยชวนท่านให้ลงมากราบเยี่ยมหลวงปู่ชอบ ที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน พระอาจารย์เปลี่ยนว่าตอนนั้นเราเองก็อยากจะมาหาหลวงปู่ชอบเหมือนกัน เราอยากจะให้ท่านแก้เรื่องใจในภาวนาให้กับตนเอง
ท่านว่า “ตอนช่วงนั้นเราเป็นคนใจร้อน มีโทสะง่าย คนมากวนเราก็อัดกับคน ผีมากวนเราก็อัดกับผี นาคมากวนเราก็อัดกับพวกพญานาค”
พระอาจารย์เปลี่ยน “อัดคนอัดผีด้วยตีนด้วยมือนี่ มันกะบ่พอว่าดอก นี่มันเอาจิตกสิณไฟในใจเจ้าของ เพ่งใส่จนเขาเจ็บไข้ได้ป่วยไปกะหลาย จนหลวงปู่ชอบท่านว่าให้เรา หือ..!
มันเอาแต่กสิณนำหน้าบ่ เอาเมตตาคุมต้นทางของจิตไว้ ครูบาอาจารย์หลวงปู่ชอบท่านก็แก้จิตเรื่องนี้ให้เรา อยู่วัดป่าสัมมานุสรณ์ จนเรานั้นหายขาดตั้งแต่เราพรรษาสิบ”
พระอาจารย์เปลี่ยนว่า ตอนท่านไปพักปฏิบัติอยู่กับหลวงปู่ชอบ ที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ท่านขอให้หลวงปู่ชอบแสดงฤทธิ์ให้ท่านดูในเรื่องอะไรก็ได้
ท่านกราบเรียนหลวงปู่ชอบว่า “ขอนิมนต์พ่อแม่ครูอาจารย์แสดงฤทธิ์ให้ลูกหลานได้เห็น เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติด้วยขอรับ”
ท่านว่าแบบขำๆ “ตอนนั้นเราก็กล้าดื้อ ตื้อขอกับครูบาอาจารย์มาก”
พระอาจารย์เปลี่ยนว่า ทีแรกหลวงปู่ชอบก็ทำท่าดุท่าน หือ..! ของแบบนี่เขาบ่เอามาเฮ็ด (ทำ) เล่นๆ กันเด้ พอทำท่าดุแล้ว พระอาจารย์เปลี่ยนว่า หลวงปู่ชอบก็ยื่นขาของท่านมาให้ท่านนวดเส้นให้
พระอาจารย์เปลี่ยน “หลวงปู่ชอบท่านว่า เอ้า..! โบ้ย (เอ้าไอ้หนู) นวดเส้นให้พ่อแก่มันแน่ วันนี่เฮาเดินจงกรมหลายขามันตึง เราก็นวดเส้นให้ท่าน หลวงปู่ชอบ เล่าเรื่องท่านไปเที่ยววิเวกอยู่ที่นั่นที่นี่ มีเทวดาพญานาคอะไรใครมาหาท่านบ้าง เราก็เพลินฟัง นวดเส้นให้ท่านไป จนถึงตีสามหลวงปู่ชอบท่านจึงแสดงฤทธิ์หายตัวให้เราได้เห็นเป็นขวัญตา”
ตนเอง (ครูบากล้วย พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท) ถามท่านพระอาจารย์เปลี่ยน หลวงปู่ชอบท่านหายตัวให้ครูอาจารย์เห็นแบบไหน
พระอาจารย์เปลี่ยนท่านว่า หลวงปู่ชอบบอกท่านไว้ ถ้าเรานอนเอาผ้าจีวรคลุมตัวเองแล้ว จากนั้นอีกสิบนาที ท่านบอกให้ดึงเอาผ้าจีวรที่คลุมตัวของท่านออกเลยนะ
พระอาจารย์เปลี่ยนว่า หลังจากหลวงปู่ชอบนอนเอาผ้าจีวรของท่านคลุมจนสุดหัวสุดเท้าของท่านแล้ว พระอาจารย์เปลี่ยนท่านก็จับนาฬิกาที่เอวของตนเองออกมาดูเวลา ท่านนับเวลาจากที่หลวงปู่ชอบท่านนอน เอาผ้าจีวรคลุมตัวเองได้ ๑๓ นาที ท่านก็ยกมือขึ้น กล่าวคำขอโอกาสต่อครูบาอาจารย์หลวงปู่ชอบ
พระอาจารย์เปลี่ยน “เรารื้อผ้าจีวรหลวงปู่ชอบเอามากอดแนบไว้ที่อกของเรา เสื่อที่ท่านนอนนั่นแปนเอิ่ดเติด (เสื่อที่ท่านนอนนั้นว่างเปล่าไม่มีอะไร) ตัวของหลวงปู่ชอบนั้นเราก็ไม่รู้ว่าท่านหายไปไหน ที่ๆ ท่านนอนก็มีแต่เสื่อกับหมอนอยู่เท่านั้น
เราก็เลยกำหนดจิตของตนเอง ไล่ค้นหาหลวงปู่ชอบว่าท่านไปหลบอยู่ที่ไหน พอเรากำหนดจิตค้นหาท่าน ก็ปรากฏมีมือใหญ่ๆ มาปิดบังตาจิตตาใจของเราเอาไว้ ไม่ให้มองเห็นท่าน เราก็เลยย้อนจิตเข้ามาถามธรรมในใจของตนเองว่ามันคืออะไร เราถึงรู้ว่าหลวงปู่ชอบ ท่านใช้ฤทธิ์อภิญญาบังตาในใจจิตของเราเอาไว้ ไม่ให้มองเห็นท่าน”
พระอาจารย์เปลี่ยนท่านว่า แล้วก็หัวเราะแบบขำๆ “คักบ้อเจ้าบาดนิ ฤทธิ์ลูกศิษย์บ่สู้ฤทธิ์อาจารย์”
พระอาจารย์เปลี่ยนว่า จากนั้นอีกประมาณสิบห้านาที หลังจากที่รู้แจ้งแก่ใจตนแล้ว ท่านก็เอาผ้าจีวรคลุมลงไปบนเสื่อที่นอน
ท่านว่าพอเราคลุมจีวรลงไปในเสื่อแล้ว ก็ปรากฏเป็นรูปร่างหลวงปู่ชอบท่านนอนคลุมจีวรอยู่บนเสื่อ ซักพักหลวงปู่ชอบท่านก็รื้อผ้าจีวรออกลุกขึ้นมานั่ง หลวงปู่ชอบถามท่านว่า “เห็นหรือยังละเปลี่ยน ผู้ปฏิบัติได้ในพระศาสนานั่นเป็นจั่งใด๋ (เป็นยังไง) จิตคนนี่ หากปฏิบัติได้แล้วมันสิเป็นแก้วสารพัดนึก”
พระอาจารย์เปลี่ยน “เราเรียนถามหลวงปู่ชอบว่าหายไปไหน ทำไมกระผมค้นหาครูบาอาจารย์ในจิตในใจก็ไม่เห็น เห็นแต่มีมือใหญ่ๆ มาปิดที่ตาจิตตาใจของกระผมไว้คล้ายกับคนเอามือมาปิดตากันนี่
หลวงปู่ชอบท่านบอกเรา เฮาบ่ได้ไปไส (เราไม่ได้ไปไหน) เฮาอยู่ในกุฏินี่ล่ะ เฮาบังตาเนื้อตาในของท่านไว้บ่ให้ท่านเห็นซื่อๆ (ไม่ให้ท่านเห็นเฉยๆ)”
พระอาจารย์เปลี่ยน “นั่นล่ะ..! ฤทธิ์ของท่านพระอรหันต์ ผู้ทรงฤทธิ์ ตาเนื้อใสๆ ของเราก็หาท่านไม่เห็น ตาญาณในฌานความรู้ของเราก็หาท่านไม่เจอ”
พระอาจารย์เปลี่ยนท่านถาม อยู่กับหลวงปู่ชอบท่านเคยเหาะเคยหายตัวให้ลูกหลานพระเณรได้เห็นไหม ตนเองก็เรียนท่านพระอาจารย์เปลี่ยนว่า เคยได้เห็นหลายครั้งอยู่ขอรับ
บางครั้งท่านก็ จำแลงตนให้พระเณรอุปัฏฐากเห็นเป็นหลายคนๆ ที่มีวัยแตกต่างกัน บางครั้งท่านก็ลอยตนขึ้นไปบนอากาศให้พระเณรอุปัฏฐากได้ตื่นเต้นหายง่วงนอน
จนเณรโอ๋เชียงราย (ปิยะพงษ์ ผิวสุวรรณ) กลัว วิ่งตาตื่นมาบอกผม ครูบาๆ หลวงปู่ชอบท่านตัวใหญ่ๆ เต็มห้องเหมือนกับผี ผมล้างกระโถนให้ท่านอยู่ข้างนอก เลยเดินเข้าไปดูในห้อง เห็นหลวงปู่ชอบท่านตัวใหญ่เต็มห้อง ยังกับรูปปั้นพระสังกัจจาย พอเห็นแบบนี้แล้วผมก็ยืนถือกระโถนขนหัวลุกขึ้นมาทันที
พระอาจารย์เปลี่ยนหัวเราะ ท่านว่า “ประสาอะไรกับเด็กน้อยมันจะไม่กลัว ผู้ใหญ่อย่างเราๆ นี้ ถ้าได้เห็นแบบนั้นมันก็ตื่นคือกัน”
ตนเองว่า เรื่องที่ท่านอาจารย์เปลี่ยนไปขอให้หลวงปู่ชอบท่านหายตัวให้ดูนี้ กระผมล่ะนึกถึงเรื่องหลวงปู่เจี๊ยะ (จุนฺโท) ท่านขอให้ ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน (คุณวโร) ท่านลอยตนให้ดู ที่วัดถ้ำสหาย
พระอาจารย์เปลี่ยนท่านว่า “นอกจากความเป็นธรรมแท้ในตนเองแล้ว อาจารย์จันทร์เรียนนี่ ท่านจะถอดความเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ชอบออกมาได้หลายกว่าลูกศิษย์คนอื่นๆ”
เรากราบเรียนท่านพระอาจารย์เปลี่ยนว่า เรื่องพระฤทธิ์ พระเดช ในประเทศไทยนี้ ที่ผมได้เห็นมานอกจากหลวงปู่ชอบผู้เป็นต้นเค้าเก้าอาจารย์แล้ว ผมก็เห็นครูอาจารย์จันทร์เรียนกับครูอาจารย์เปลี่ยนนี่แหละ ที่เป็นอัศจรรย์ ไม่ธรรมดา