อภินิหารหลวงปู่ทวด

ขอเพียงจิตอธิษฐาน

ผมย้ายมาจากจังหวัดนราธิวาส มาอยู่อำเภอสุไหปาดี เมื่อผมได้มาอยู่ใหม่ๆได้ฟังใครๆเขาก็เล่าลือกันว่าหลวงพ่อทวดฯวัดช้างไห้มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เป็นที่นิยมแพร่หลายกันมาก แต่บางคนก็ไม่มีโอกาสไปขอจากวัด แต่ก่อนผมเคยไปรับราชการอยู่ที่ อำเภอโคกโพธิ์ซึ่งนับว่าได้อยู่ใกล้วัดช้างไห้ ทั้งผมก็เป็นศิษย์หลวงพ่อทวดอยู่ด้วย

อยู่มาวันหนึ่งในเดือนตุลาคม 2502 คุณสมศรีภรรยาของปลัดเปลื่อง เลิศแก้ว ซึ่งเป็นปลัดอำเออยู่ที่อำเภอสุไหงปาดี เกิดมีความเลือมใส่อยากได้พระเครื่องหลวงพ่อทวดฯแบบบูชาอยู๋แล้ว แต่อยากได้พระเครื่องอีก

แกจึงขอให้ผมนำไปขอจากวัดช้างไห้ แต่ผมยังไม่มีเวลาว่าง จึงผัดวันประกันพรุ่งเรื่อยมา ต่อมาจนถึงเดือนธันวาคมในปีเดียวกัน วันหนึ่งแกได้วิ่งเอะอะมาจากบ้านและในมือกำ ของอย่างหนึ่งไว้

เมื่อพบผมแล้วแกก็บอกว่า “ไม่ต้องไปวัดช้างไห้แล้ว” พลางแบมือให้ผมดูก็เห็นพระเครื่องหลวงปู่ทวดฯวางอยู่ในมือ แกเล่าให้ผมฟังว่าพระเครื่ององค์นี้ไม่ทราบมาจากไหน ได้ตั้งอยู๋บนหิ้งพระภายในบ้านของแก ผมสังเกตเห็นแกดีใจมาก ใครๆซึ่งอยู่ในที่นั้นลงความเห็นกันว่าคงจะเป็นอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ ปาฏิหาริย์มาให้แกไว้บูชาแน่

เพราะแกมีเจตนาอันแรงกล้า ปรารถนาจะรับท่านไว้บูชา
ต่อจากนั้นเมื่อเดือนเมษายน 2503 เด็กชายตี๋ บุตรคนเล็กของคุณสมศรี อายุ7ขวบ ได้รับทานอาหารเช้าบังเอิญกระดูกไก่ติดคอหุบปากไม่ได้ กลืนน้ำลายก็ไม่ได้

บิดาจึงพาไปหานายแพทย์เพื่อจะให้จัดการคีบเอาออก แต่นายแพทย์ไม่สามารถคีบให้ได้เพราะ กระดูกไก่ติดอยู่ลึกมากมองไม่เห็น จึงต้องนำลูกกลับบ้าน เมื่อผมทราบได้ไปเยี่ยมที่บ้านและแนะนำ ให้แกจัดการบูชาขอน้ำมนต์ของหลวงพ่อทวดฯ

แกก็ได้กระทำ ตามแล้วเอาน้ำ มนต์นั้นให้ลูกชายดื่มทีละหยดๆเพราะดื่มมากไม่ได้พร้อมกับการรดศีรษะให้ด้วย
ปรากฏว่าอีก1ชม.ต่อมาเด็กนั้นก็หุบปากและกลื น้ำลายได้ปกติ ผมเห็นว่าเรืองจากอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯประสิทธิ์และขลังเป็นที่ประจัก์เช่นนี้

รอดพ้นภัยโจร

เหตุเกิดที่บ้านหนองกรก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ในคืนวันที่22เมษายน 2497 เวลา21.00 น.นายแดงและภรรยากลับจากทำงานมากินข้าวแล้วเตรียมเข้าห้องนอน พอใกล้จะหลับได้ยินเสียงกริ่งๆอยู่ในขวดโหลบนหิ้งพระ ซึ่งมีพระเครื่องของหลวงพ่อทวดฯขอมาจากวัดช้างไห้ใหม่ๆและได้เก็บไว้บนขวดโหลใบนั้นเขาคิดว่าหนูได้กลิ่น นํ้ามันจึงลงไปคาบพระแล้วกระทบกับขวดจึงเกิดเสียงดังขึ้น

นายแดงจึงลุกขึ้นจุดตะเกียงส่องดูก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ จึงล้มตัวลงนอนต่อไปจนถึงเวลา 22.00 น. เขากับภรรยาก็ตกใจตื่นขึ้นทันทีเพราะเสียง ปื น ดังขึ้นที่ชานเรือน 3 นัด นายแดงจึงนึกขึ้นได้ทันทีว่าตนถูกผู้ร้าย ป ล้ น บ้าน จึงตื่นขึ้นจับมีดตัดฟากพื้นเรือนขนาดเป็นช่องแล้วรอดหนีไปทางช่องใต้ถุนเรือน

ฝ่ายภรรยากำลังตกตลึงไม่ได้สติ จึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้พวกโจร ขณะที่พวกโจรกำลังกระแทกบานประตูอยู่พอเขายื่นมือจับกลอนประตู ก็มีมือประหลาดมาผลักหน้าอกเขาก้นกระแทกพื้น เขานึกถึงหลวงพ่อทวดทันที จึงลุกขึ้นไปหน้าหิ้งพระพนมมืออ้อนวอนขอให้หลวงพ่อทวดช่วยคุ้มครองรักษา ฝ่ายพวกโจรก็ออก กำลังพังประตูห้องอยู่โครมครามสั่นสะเทือน

เขากลัวจนไม่สามารถทนอยู่ได้จึงพนมมือกล่าวขอให้หลวงพ่อทวดฯช่วยคุ้มครองบ้านให้ลูกหลานด้วยเถิด กล่าวจบแล้วลอดหนีทางช่องตามสามีไป ปรากฏว่าพวกโจรใช้ปืนยิงติดตามหลังแต่ไม่ถูก พวกโจรเมื่อโถมพังประตูไม่ออกจึงพากันหนีเข้าป่าไป
นายชาติ สิมศิริฃ

กำนันตำบลนาประดู่ เล่าเรื่อง

วันหนึ่งข้าพเจ้าพบกับพนักงานสอบสวน อำเภอโคกโพทธิ์ เขาว่าผมได้ไปสอบสวนพร้มกับนายอำเ ภอได้ไปตรวจดูความแข็งแรงของบานประตูห้องนอนของนายแดงแล้วปรากฏว่าเก่าแก่และเบาบางมากใช้แรงผลักดันคนเดียวก็พังเพราะประตูมีบานเดียวและสอบถามคนแก่ที่อยู๋นอกห้องได้ความว่าพวกโจร6คนโถมพังประตูอยู๋นานประมาณ25นาที เจ้าพนักงานสอบสวนคนนั้นบอกข้าพเจ้าว่ามันเป็นเรื่องอัศจรรย์ยิ่ง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า