อภินิหารรอยเท้าหลวงพ่อเดิม

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี ตอนสงคราม นายชั้น หนวดแหยม อยู่ที่ตาพระยาแกเป็นคนเชื้อสายเขมร สักยันต์เต็มตัว เล่นคุณเล่นของเต็มบ้านไปหมด

แกมีอาชีพทางเป็นหมอทำคุณไสยเสน่ห์ยาแฝด เอาทุกท่า พูดง่ายๆก็คือหากินด้วยการ ผ ล า ญ ชีวิต และความสุขของผู้อื่นนั่นเอง

ชาวบ้าน ต.ตาพระยา และเขตใกล้เคียงนับถืออาคมของ นายชั้นแกมาก มีเรื่องเดือดร้อน ควายหาย คนหาย ตลอดจนของหาย สามีไม่กลับบ้าน ลูกสาวหาย อะไรต่ออะไรจิปาถะ ก็ต้องมาหานายชั้นให้ช่วย

นายชั้นจึงมีรายได้จากคนที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างงาม ทั้งค่ากำนัล และค่าแรงที่ช่วยทำงาน ทั้งเงินทองเครื่องใช้อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าจะมีหมอประเภทเดียวกัน มาเปิดสํานักแข่งก็ไม่อาจทาน อำนาจอาคมของนายชั้นได้ ต้องหอบเสื่อหอบหมอนย้ายไปหากินที่อื่น

บางคนถึงกับพุงแตก ต า ยเ พราะหนังที่นายชั้น หนวดแหยมเสกเข้าไปบานในท้อง จนกระทั่งเป็นที่ระย่อของบรรดาหมอผีด้วยกัน เล่าลือกันสนั่นว่านายชั้น หนวดแหยมคือยอดหมอผีอันดับหนึ่ง แห่งตาพระยา สมัยสงครามเลยทีเดียว

อีกคนหนึ่งที่จะกล่าวคือนายเกี้ยว คนหนองเต็งรัง อ.พยุหะคีรี นครสวรรค์ ตอนนั้นสงครามกำลังจะระอุ นายเกี้ยวก็อพยพจากพยุหะฯ ไปทําไร่ที่ตาพระยาตามภรรยาของเขาที่มีรกรากและที่ดินอยู่ที่นั่น ประการแรกเพื่อหลบภัยส ง ค ร า ม ประการที่สอง จะได้ตั้งหลักฐานและจับจองที่ดินเพื่อขยายเนื้อที่ออกไป

นายเกี้ยวเล่าว่า ก่อนจะไปได้ให้หลวงพ่อเดิมรดน้ำมนต์ให้ หลวงพ่อมอบตะกรุดคาดเอว พร้อมลูกสะกดปรอทกันไข้ป่า ส่วนตัวเขาได้เช่ามีดหมอจากกรรมการวัด แล้วไปให้หลวงพ่อประสิทธิ์ให้

สำหรับรอยเท้านั้น หลวงพ่อเหยียบให้เปล่าๆแถมยังลงอักขระด้วยดินสอ ดำเพิ่มให้อีก หลวงพ่อบอกว่า เข้าที่คับขันอย่าลืมรอยเท้า นายเกี้ยวจึงออกเดินทางไปตาพระยาเพื่อ ทำไร่ตามที่ตั้งใจไว้

เมื่อนายเกี้ยวไปที่ตาพระยานั่นเอง ก็ไปขัดผลประโยชน์ของนายชั้นหมอผีอันดับหนึ่งของตาพระยาเข้าให้จนได้ก็เพราะความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบบหลวงพ่อนั่นเอง วันหนึ่งญาติของภรรยานายเกี้ยวมีอาการแน่นท้องอึดอัดหายใจไม่ออก

ชาวบ้านเรียกว่าป่วง แต่ป่วงที่ญาติภรรยาของนายเกี้ยวเป็นไม่ใช่เหมือนป่วงธรรมดาแต่ว่าท้องยุบได้บวมได้ มีก้อนคล้ายลูกหนูวิ่งนูนไปนูนมาเสียงดังโครกครากเป็นที่น่าประหลาด เมื่อเป็นหนักเข้าก็ถึงกับไม่ได้สติ
นายเกี้ยวได้สอบถามภรรยาว่าเหตุเกิดเพราะอะไร

ภรรยาของนายเกี้ยวก็กระซิบกระซาบคล้ายกลัวใครจะได้ยินว่า “ก็ไม่ได้เอาค่ากำนัลไปให้หมอผีชั้นน่ะซี เพราะหมอชั้นแกเรียก ค่ากำนัลแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น เพียงแต่เอาไปให้ช้าสามสี่วันเท่านั้นและไม่ยอมให้ตามที่ปรับ

พอเดินลงจากบ้านหมอชั้น ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อ เมื่อหันไปดูก็หน้ามืดหล่นลงมาจากบันได ต้องให้คนช่วยหามมาบ้าน พอรู้สึกตัวก็บ่นแน่นท้องหายใจไม่ออก สงสัยว่าจะถูกหมอชั้นเล่นงานด้วยการเสกหนัง
เข้าท้อง”

นายเกี้ยวขนลุก นึกถึงมีดหมอขึ้นมาได้จึงลุกไปจุดธูปเทียนระลึกถึงหลวงพ่อต่อหน้ารูปแววนกยูง เอามีดหมอมาวางไว้บนผ้ารอยเท้าแล้ว เอาน้ำฝนใส่ขันทำน้ำมนต์ ชักมีดหมออกจากฝัก คนลงไปในนํ้าแล้วกลับเอาด้ามคนเอาผ้ารอยเท้าครอบปากขันอีกทีหนึ่ง แล้วยกออกทำน้ำมนต์ไปรักษาคนไข้

นายเกี้ยวพรมนํ้ามนต์ลงไปที่ตัวคนไข้คนไข้นั่งนิ่งเงียบก็ดิ้นพรวดพราดเหมือนถูก น้ำร้อนราดลุกขึ้นนั่งตาขวาง นายเกี้ยวเอาผ้ารอยเท้าคลี่ออกตลอดผืนแล้วครอบลงไปบนหัวคนไข้ คนไข้ลุกทะลึ่งขึ้นสุดตัวแต่ไม่อาจจะหลุดจากการกดหัวไว้ได้ ก็สงบลง

นายเกี้ยวสั่งภรรยาให้เอา น้ำมนต์มาจ่อที่ปากของคนไข้แล้วให้ดื่ม ส่วนตัวนายเกี้ยวเอง คอยกดผ้ารอยเท้ากับกระหม่อมของคนไข้ชนิดมั่นคงไม่ให้ไปไหน ให้คนไข้อ้าปากดื่มน้ำมนต์เข้าไปสามอึก อึกที่สามกลืนไม่หมดสำลักออกมา

เมื่อนายเกี้ยวปล่อยมือจากการกดคนไข้ ก็ทำท่าขย้อนจะอาเจียน ภรรยาของนายเกี้ยวรีบไปหากระโถนมารองให้อาเจียนเสียงโอ้กๆ อาหารในกระเพาะไหลออกมาก่อน ตามด้วยเส้นผมคนเป็นขยุ้มๆ สีดำค่อยๆเคลื่อนที่ออกมาจากปาก

ภรรยานายเกี้ยวรีบเอามือช่วยดึงออกจากปาก แล้วทำหน้าเบ้ด้วยกลิ่นเหม็นที่โชยออกมานั่นเอง คนไข้อาเจียนออกมาเป็นเส้นผมคนค่อนกระโถนจึงหยุดอาเจียนหายเป็นปกติ อาการแน่นท้องอึดอัดหายเป็นปลิดทิ้ง

นายเกี้ยวรู้ได้ในวินาทีนั้นว่าคนไข้ถูก กระทำคุณเสกผมผี ต า ย โ ห งเ ข้าท้อง หากรักษาไม่ทันพอพระอาทิตย์ตกดินคนไข้จะเ สี ย ชีวิ ต
ข่าวการช่วยชีวิตญาติของภรรยาของนายเกี้ยวกระจายไปเข้าหูของนายชั้น หนวดแหยม นายชั้นตาลุกวาวด้วยความแค้นเคืองหลุดปากออกมาว่า อ้ายคนเหนือมันจะแน่สักแค่ไหนวะ กูจะเอามันให้ถึ ง ต า ย

คำกล่าวอาฆาตของหมอผีอันดับหนึ่งมาเข้าหูนายเกี้ยว ภรรยาของนายเกี้ยวหน้าเสียเพราะกลัวสามีจะไปมีอันตรายจากไสยเวทมนต์ดํา นายเกี้ยวหัวเราะหึๆเพราะเชื่อมั่นในบารมีของหลวงพ่อเดิมกับของขลังที่มีอยู่ แต่เพื่อเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้นายเกี้ยวจึงเอาผ้ารอยเท้าหลวงพ่อมาเย็บติดกับไม้ไผ่ด้านบน ทำเป็นธงแขวนไว้ที่หัวนอน

ตะกรุดพร้อมลูกสะกดคาดเอวไว้ตลอดเวลา มีดหมอเอาใส่ไว้ใต้หมอนก่อนนอนก็สวดระลึกขอบารมีหลวงพ่อคุ้มครองให้รอดปลอดภัย ไม่กี่วันในตอนดึก เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้น เสียงคล้ายลมพัดกิ่งไม้ครูดกับฝาบ้านดังแกรกๆตอนแรกๆดังค่อยๆแล้วก็ดังหนักขึ้นๆนายเกี้ยวจึงตื่นขึ้น ไล่เลี่ยกันนั้นภรรยาของนายเกี้ยวก็ตื่นขึ้นพร้อมอ้าปากจะทัก

นายเกี้ยวเอามือปิดปากไว้ได้ทัน เสียงแกรกกรากนั้นก็เงียบไป มีเสียงลมกระโชกที่หน้าต่างหัวนอน นายเกี้ยวแหงนขึ้นไปดูก็เห็นธงรอยเท้าแก่วงเล่นลมตามปกติ
และทันใดนั้น! ก็มีเสียงเฟี้ยวคล้ายของที่วิ่งด้วยความเร็ว แหวกอากาศก็ดังขึ้นที่หัวนอนดังพึ่บ คล้ายกับมีอะไรหนักๆวิ่งชนธงรอยเท้าที่โบกสะบัดอยู่ เสียงตุ๊บคล้ายของหนักตกลงบนพื้นกระดาน

นายเกี้ยวนอนนิ่ง จนกระทั่งทุกอย่างสงบแล้วจึงออกจากมุ้งจุดตะเกียงส่องดูตรงหัวนอนที่ได้ยินเสียงของหนักตกลงมา ที่พื้นกระดานหัวนอนใกล้กับหน้าต่างนั่นเองมีเนื้อวัวขนาดประมาณ
สามกิโลมัดด้วยสายสิญจน์แถมด้วยหนามกากบาทตกอยู่ที่พื้น สายสิญจน์ขาดกระจุยออกจากกัน

เมื่อนายเกี้ยวเอาไม้กวาดเขี่ยดู
นายเกี้ยวรู้ได้ทันทีว่า นั่นคือคุณไสยเนื้อที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อหักล้างชีวิตของตน จึงเอามีดหมอมาทํานํ้ามนต์พรมลงบนก้อนเนื้อแล้วเอาไม้ไผ่ปลายแหลมเสียบ นำไปฝังดินไว้นอกเขตบ้าน

ตอนสายๆนายเกี้ยวบุกไปที่บ้านนายชั้น หนวดแหยมทันทีเพื่อพูดจากันให้รู้เรื่องโดยนำตะกรุด มีดหมอ และผ้ารอยเท้าไปด้วย เพื่อความไม่ประมาท นายชั้นยกน้ำท่ามาต้อนรับ นายเกี้ยวรู้แกวไม่ยอมกินอะไรทั้งนั้น ได้แต่เจรจาเรื่องข้อบาดหมาง แต่นายชั้นหมอผีอันดับหนึ่งไม่ยอมฟังเสียงหาว่าดูถูกกัน ทำให้เสื่อมเสียต้องล้างผลาญกันให้พังกันไปข้างหนึ่ง

นายเกี้ยวก็พยายามเจรจาให้ยุติการล้างผลาญ แต่ไม่เป็นผล ท้ายสุดก็ต้องกลับมาด้วยความผิดหวัง ที่พึ่งสุดท้ายคือหลวงพ่อเดิม จึงจุดธูปเทียนบูชาอาราธนาให้หลวงพ่อช่วย ในระหว่างนั้นก็ระวังตัวแจกลัวฝ่ายนายชั้นจะมา ทำของใส่ ร้อยสีพันอย่างที่นายชั้นพยายามทำคุณใส่นายเกี้ยว แต่ไม่สำเร็จผลสมใจหมาย

ครั้งสุดท้ายนายชั้นใช้วิชาสุดยอดเรียกว่า “แลกชีวิต” วิชานี้เป็นไสยเวทมนต์ ดำที่ใช้เป็นสิ่งสุดท้ายในการทำลายคู่ต่อสู้ กล่าวคือการสร้างคุณไสยชนิดร้ายแรงนี้ประกอบด้วยผี ตา ย โ ห ง ผีต าย ห่ า ผีต า ย ทั้ งก ล มกับอาถรรพณ์ร้อยแปดบรรดามี คุณชนิดนี้หากปล่อยไปแล้วคู่ต่อสู้ ไม่ตายหรือแก้กันได้

ตัวผู้ทําจะถูกของนั้นย้อนกลับมา ทำอันตรายตัวเองถึงตายจึงเรียกกันว่า “แลกชีวิต” ซึ่งหากไม่เจ็บใจหรือแค้นเคืองมากๆแล้วเป็นไม่มีใครยอมทํา เพราะรู้ดีว่าหากไม่สำเร็จ ตัวเองต้อ งต า ย กรรมย่อมสนองกรรมอย่างแน่นอนที่สุดคุณที่นายชั้นปล่อยออกไป ไม่สามารถผ่านธงรอยเท้าของหลงพ่อไปได้ แต่ก็ทําให้เชือกที่ร้อยธงและไม้ไผ่ที่ดามไว้ป่นเป็นชิ้นๆธงหล่นลงมากองกับพื้น

ตอนเช้านายเกี้ยวก็ต้องไปร่วมพิธี ศ พข องหมอชั้น หนวดแหยม ที่มีอาการตาเหลือกค้าง เลือดออกทางทวารทั้งเก้า ใบหน้าเนื้อตัวเขียวคล้ำ ต า ย อ ย่างน่าทุเรศ ชาวบ้านพูดกันว่าถูกหมอผีฝ่ายตรงข้าม ทำคุณมา ฆ่ า แ ต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า นายชั้น หนวดแหยมตายเพราะแพ้ภัยแก่ตัวเอง

และแก่รอยเท้าหลวงพ่อเดิมที่อุดมด้วยพลังนะปัดตลอด ที่คอยป้องกันชีวิต ของนายเกี้ยวอยู่นั่นเองและ
“หมอชั้น ต า ย เ พราะความอา ฆ า ต แค้นและผลกรรมที่เขาก่อกรรมผลาญชีวิตผู้อื่นมามากต่อมากแล้วนั่นเองเป็นเหตุ”

บทความดังกล่าว ได้เขียนไว้โดย เตโชทิพย์ เมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ก็ขออนุญาตนำบทความ
มาเผยแพร่ให้นักนิยมสะสมผ้ารอยเท้าตลอดจนเครื่องรางฯต่างๆของหลวงพ่อเดิม ได้ทราบพุทธานุภาพอภินิหารของหลวงพ่อเดิม ขอขอบคุณ เตโชทิพย์ มา ณ โอกาสนี้

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า