เมื่อคราว ที่เ ผ าสังขาร หลวงพ่อโหน่ง คนทั้งวัดที่มาเผาจำนวนมากเหลือเกิน เต็มวัดเต็มวา เพราะมีคนเคารพนับถือมาก พากันเห็นเทวดากลางวัน เขาว่าอย่างนั้น
หลวงพ่อปานท่านก็ยิ้มแล้วบอกว่า ท่านเจ้าคุณตาฝาดไปละมั้ง อะไรกันเทวดาจะให้คนเห็น
พระยาพิศาลสารเกษตรท่านก็บอกว่า ไม่ใช่ผมเห็นคนเดียวนะครับ ถ้าใครเขามาเล่าให้ผมฟังน่ะผมไม่เชื่อเด็ดขาด แต่นี่ผมเห็นด้วยตาของตนเอง ลูกเมียผมเห็น คนที่เขาไปเห็นหมด
หลวงพ่อปานก็ถามว่า เทวดามีรูปร่างเป็นอย่างไร
พระยาพิศาลสารเกษตรก็บอกว่า รูปร่างสวยจริงๆ ครับเทวดา มีรูปร่างสะโอดสะอง มีรัศมีกายออกมา มีเครื่องประดับแพรวพราว
หลวงพ่อปานก็ถามว่า เห็นกี่องค์
พระยาพิศาลสารเกษตร ก็ตอบว่า เท่าที่เห็นประมาณ ๑๒ – ๑๓ องค์ มาลอยอยู่รอบเมรุที่จะเผาท่าน
แล้วท่านก็ถามว่า แล้วมีอะไรอีก
ท่านพระยาพิศาลสารเกษตร ก็บอกว่า ไม่มีอะไรอีก เห็นกันจนกว่าเวลาใกล้คํ่า ทุกคนที่ใส่ไฟเผาหลวงพ่อโหน่งนี่ต่างคนต่างก็ไม่ไปไหน ต่างยืนชมบารมีของเทวดา ความสวยสดงดงามของเทวดาเมื่อเวลาใกล้จะมืดสนิท หมายความว่าพอเริ่มจุดเทียนจุดไฟให้แสงสว่าง เทวดาก็กลับ เวลากลับก็เห็นแสงสว่างไปลิ่วจนสุดสายตาคล้าย ๆ กับดาวเคลื่อนที่
นี่เป็นอานุภาพความดีของหลวงพ่อโหน่ง แม้แต่ท่านตายไปแล้วเวลาที่เขาจะเผาเทวดาก็ยังมาร่วมงาน
แต่ว่าเทวดาองค์นั้นจะเป็นใครนี่ ฉันก็ไม่ได้ถามหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานท่านได้ฟังจาก พระยาพิศาลสารเกษตรพูดอย่างนั้น ท่านก็ยิ้ม ท่านก็บอกว่าเป็นไปได้..เจ้าคุณ เพราะว่าหลวงพ่อโหน่งท่านเป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูง
พอท่านพูดแบบนี้รู้สึกว่า พระยาพิศาลสารเกษตรทำท่าตกใจ ถามว่าหลวงพ่อทราบหรือครับ ท่านบอกทราบ เพราะอาตมาเคยสัมผัสกันอยู่ใกล้ชิดกัน เคยคบหาสมาคมกัน เป็นลูกศิษย์อาจารย์เดียวกัน แล้วก็หลวงพ่อโหน่งเมื่อเขาเอ าศ พ อ อ กมา เพื่อจ ะ เ ผ าแล้วไม่เน่า
อาตมาก็รู้ แต่ความจริงคนที่นั่นเขาโง่ ถ้าเขาเก็ บ ศ พ ไว้วัดจะกลายเป็นทองคำ เพราะคนจะบูชากันเสมอ อาตมาได้เตือนไปแล้วบอกคนที่เขามาตามไปแล้วว่า ถ้ า ศ พ ไ ม่เน่ามีสภาพปกติให้เก็บรักษาไว้
แต่เขาไม่เชื่อ พระยาพิศาลฯ ตกใจถามว่าหลวงพ่อรู้ก่อนแล้ว บอกเขาไปก่อนหรือ
ท่านบอกว่า ได้บอกเขาไปก่อน เป็นอันว่าสำหรับคนในจำนวนที่มาบอกท่าน มาพร้อมกับพระยาพิศาล ฯ ก็ปรากฏว่าเป็นคนเคยมาหาท่านมานิมนต์ท่าน เขาก็บอกว่าหลวงพ่อสั่งไปอย่างนั้นจริง แต่ว่าคนอื่นเขาไม่เชื่อนี่
แม้แต่ท่านเจ้าคุณเองก็ยังไม่เชื่อ
พระยาพิศาลฯ ก็เลยบอกว่าผมน่ะไม่มีอำนาจครับ ถ้าคนอื่นเขาจะทำผมก็ปล่อยทำ ผมเป็นคนนำไฟหลวงไปเท่านั้น ไม่มีอำนาจอย่างอื่น หลวงพ่อปานก็เลยบอกว่า เรื่องนั้นเป็นอันยกกันไป
เป็นอันว่าท่านทั้งหลายได้เ ผ า ศ พ
พระอริยเจ้าขั้นสูงคือพระอรหันต์ จัดว่ามีบุญมาก พอท่านพูดเท่านั้นทุกคนพากันตกใจ บอกว่ากลับไปจะไปเอากระดูก
หลวงพ่อปานบอกว่าป่วยการ เรื่องกระดูกไม่สำคัญ สำคัญมีอย่างเดียวคือจำไว้ว่า หลวงพ่อโหน่งปฏิบัติอย่างไรปฏิบัติตนแบบนั้นนั่นแหละ
สมควรอย่างยิ่ง
การไปเอากระดูกมาเก็บไว้แล้ว ก็ไม่สนใจอะไรกระดูก รักษาแต่เพียงกระดูกอย่างเดียวไม่เกิดประโยชน์ ถ้าจะทำให้เกิดประโยชน์ ก็ต้องรักษาความดีของท่าน บูชาด้วยปฏิบัติบูชาเสีย พระพุทธเจ้าทรงยกย่อง
การบูชาด้วยเอากระดูกมาเก็บไว้ แล้วก็หาดอกไม้ธูปเทียนเป็นเครื่องสักการะ การบูชาอย่างนี้มีผลเหมือนกัน
แต่ว่าน้อยเต็มที บูชาพันครั้งสู้การปฏิบัติบูชา คือปฏิบัติตามที่ท่านปฏิบัติมาแล้วครั้งเดียวไม่ได้ คือจะมีอานิสงส์มากกว่า เพราะว่าการปฏิบัติตามท่านถ้าทำบ่อย ๆ อาจจะถึงอริยมรรคอริยผลอย่างท่านก็ได้
อันนี้เป็นเรื่องราวของหลวงพ่อโหน่งที่ฉันเล่าค้างไว้ จึงนำมาเล่าให้จบเรื่อง แล้วก็จบอย่างย่อๆ พอที่ฉันรู้ ส่วนประวัติต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านี้ฉันไม่รู้ เพราะว่าฉันยังเล็กมาก คำว่าเล็กนี่หมายความว่า ฉันยังเป็นพระรุ่นเล็ก ๆ พรรษาน้อย ๆ แต่ความสนใจยังมีน้อยในประวัติของคนอื่น เพราะตอนนั้นฉันก็สนใจอยู่แต่หลวงพ่อปานเท่านั้น