หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน วัดไพรพัฒนา

หลวงปู่สรวง เป็นคนพูดน้อย และไม่เคยเล่าประวัติส่วนตัวให้ใครฟัง จึงไม่มีใครทราบประวัติและอายุที่แท้จริง ของท่านได้ มีเพียงคําบอกเล่าปากต่อปากที่ยังคงเป็นปริศนา

บ้างก็ว่าท่านเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ บ้างก็ว่าท่านเป็น พระสงฆ์ที่เดินทางมาจากประเทศกัมพูชา มาจําพรรษาที่ประเทศไทยหลายแห่ง จึงไม่มีใครที่จะทราบเรื่องราวประวัติ ที่แน่นอน ชาวบ้านในสมัยนั้นเรียกขานท่านว่า “ลูกเอ็อวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” (เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระ ดาบสที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำตามป่าเขา)

หลวงปู่สรวง เป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูงสุด ตลอดระยะเวลา หลวงปู่สรวงจะจําวัด ณ สํานักสงฆ์แห่งหมู่บ้านไพรบึงน้อย (วัดไพรพัฒนาในปัจจุบัน) และอยู่ตามกระท่อมนาเล็กๆ มีกระดานไม้ปูแค่พอนอนได้

ทุกแห่งที่หลวงปู่จําวัดจะมีเสาไม้สูงปักอยู่ มีเชือกขาวซึ่งระหว่างกระท่อม เสาไม้หรือต้นไม้ข้างเคียงมีว่าวขนาดใหญ่ ที่บุด้วยจีวรหรือกระดาษแขวนไว้เป็นสัญลักษณ์ ที่ขาดไม่ได้คือจะต้องให้ลูกศิษย์ก่อกองไฟไว้เสมอ บางครั้งลูกศิษย์ เอาของถวายท่านก็จะโยนเข้ากองไฟ ฉะนั้น ถ้าเห็นว่ากระท่อมใดมีสิ่งของดังกล่าว ก็หมายถึงว่าเป็นที่ที่หลวงปู่เคย จําวัดหรือเคยอยู่มาก่อน

พระครูโกศลสิกขกิจ “หลวงพ่อพุฒ วายาโม” เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ตําบลไพรพัฒนา อําเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เล่าว่า บุคลิกและกิจของหลวงปู่สรวง จะมีลักษณะความสันโดษ เมื่อท่านได้รับปัจจัยมา ท่านก็ไม่ ยึดติดและทําการให้ทานแก่คนยากไร้มาโดยตลอด บางครั้งก็นุ่งห่มเหลือง บางครั้งก็แต่งขาว ชาวบ้านถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็น มหามุนีเทพดาบส โดยทั่วๆไปที่เรียกว่า หลวงปู่ นั้น ด้วยมีกิจปฏิบัติเฉกเช่นสงฆ์

ชาวบ้านแห่งดินแดนอีสานใต้ ยกย่องท่านว่า เป็นผู้วิเศษแห่งภูตะแบง บ้างก็เรียกขานท่านว่า เทวดาเล่นดิน หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน นามของท่านแฝงปริศนาธรรม เพราะดินหรือปฐวีธาตุก็คือ หนึ่งในกองกสิณ

ขณะเดียวกันเมื่อใครถวายอะไรมาให้ท่านไม่ว่าจะเป็นข้าวของเงินทอง ฯลฯ ก็จะโยนเข้ากองไฟจนหมดสิ้น ซึ่งไฟ หรืออัคคีธาตุ ก็เป็นอีกหนึ่งกองกสิณที่พระอริยสงฆ์สายเหนือโลกใช้ฝึกจิต ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่น

เรื่องราวของหลวงปู่สรวง เต็มไปด้วยเรื่องราวหลากฤทธิ์พิสดาร มีอภินิหารต่างเล่าขานกันมาจากปากต่อปาก สื่อสิ่งพิมพ์ตีแผ่เรื่องราวของ หลวงปู่สรวงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นที่กล่าวขานมาจนทุกวันนี้

ปัจจุบัน หลวงปู่สรวง ท่านได้ ม ร ณ ภาพไปแล้วตั้งแต่ วันที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๓ โดยสรีระสังขารของหลวงปู่สรวงนั้น ไม่ได้เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา จึงได้เก็บรักษาร่างของท่านไว้ในโลงแก้ว ที่วัดไพรพัฒนา อําเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า