เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2502 หลวงพ่อเงิน เดินทางไปเชียงใหม่โดยรถยนต์กับ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ อดีตผู้กำกับการตำรวจภูธร ลูกศิษย์ของท่านที่มีความเคารพนับถือหลวงพ่อมาก ไม่ว่าจะย้ายไปรับราชการ ณ จังหวัดใด เป็นต้องนิมนต์หลวงพ่อให้ไปเที่ยวทุกครั้งไป
พ.ต.อ.ศิริและหลวงพ่อเงินเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงบ้านตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่ เ ล ว ร้ า ย ค า ด ไม่ถึงเพราะมี ค น ร้า ย ประมาณสิบคนกำลัง ป ล้ น รถเมล์อยู่ข้างหน้า!
รถของ พ.ต.อ.ศิริวิ่งไปด้วยความเร็วตามปกติ และหาทราบไม่ว่าที่นั่นเขากำลังทำอะไรกันอยู่
เมื่อหวนถึงที่เกิดเหตุ พวก ค น ร้ า ย หันมาเห็นเข้าเกิดเข้าใจผิด คิดว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาจับกุม จึงใช้ ปื น สั้นและ ปื น ยาวระดม ยิ ง สกัดกั้น ปื น ของพวก ค น ร้ า ย ถูกกระจกหน้ารถและหม้อน้ำแตกกระจาย
คนในรถที่ประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ต่างตระหนกตกใจ ก้มลงกราบหลวงพ่อเงินที่นั่งสงบอยู่และร้องขอให้หลวงพ่อช่วย
ปรากฏว่า ปื น นับเป็นสิบชนิดที่ ค น ร้ า ย ยิ ง มานั้น ไม่ต้องผิวกายผู้ใดเลย
ถูกลอบ ยิ ง
แต่ โ ช ค ร้ า ย ก็ยังพัดกระหน่ำคนในรถของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ซ้ำสองในเที่ยวกลับจนได้
กล่าวคือเมื่อ พ.ต.อ.ศิริ พาหลวงพ่อกลับจากเชียงใหม่หลังจากเสร็จธุระแล้ว ขณะที่รถวิ่งพ้นจากเขตอำเภอเถิน อำเภอลี้ เข้ามาถึงเขตจังหวัดตาก ได้เกิดมีการ ดั ก ยิ ง กันขึ้น
เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นป่าทึบสองฟากทาง ซ้ำยังมีก้อนหินก้อนโตๆ วางเรียงรายริมทาง เหมาะสำหลับเป็นที่กำบังของ ค น ร้ า ย ด้วย
พอรถวิ่งมาถึงบริเวณนั้น หมู่ ท ร ช น ก็กรูกันออกมาจากที่ซุ่ม ร้องบอกให้รถหยุด เมื่อรถไม่ยอมหยุดพวกมันก็ ส า ด ก ร ะ สุ น เข้าใส่หมายให้ ว อ ด ว า ย ทั้งคันรถ
พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ กับคุณนายพรรณพิมพ์ ภรรยา เห็นเหตุการณ์ดังนั้นก็กระโดดออกมาจากรถยนต์ แล้ว ยิ ง โต้ตอบแบบ ถ ว า ย ชี วิ ต ส่วนคนอื่นที่มี ปื น ก็ช่วย ยิ ง ต่อสู้ด้วย เหตุการณ์อลหม่านอยู่ประมาณสิบนาที เสียง ปื น ก็สงบ
ผลจากการต่อสู้กันในครั้งนั้นฝ่าย ค น ร้ า ย จะเป็น ต า ย ร้ า ย ดี อย่างใด ไม่มีใครทราบ เพราะพวกมันหายเข้าไปในป่าข้างทาง แต่ฝ่าย พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ มีผู้บาดเจ็บหนึ่งคน คือ คุณนายอรุณ สุจริตจิต อีกคนหนึ่งโดน ยิ ง แต่ไม่เข้า คือ ส.ต.ต.เสถียร คชหิรัญ
คุณนายอรุณนั้น ร้ อ ง ค ร ว ญ ค ร า ง ด้วยความ เ จ็ บ ป ว ด ด้วยโดน เข้าที่รักแร้ใกล้หัวใจ ได้แต่ก่อนมาในรถยนต์โดยมีหลวงพ่อเงินคอยปลุกปลอบใจตลอดทาง
ไร้ร่องรอย
เมื่อถึงโรงพยาบาลจังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้รีบนําเปลมาหามคนเจ็บขึ้นนอนบนเตียง พอรู้ว่าใครเป็นใคร ทั้งนายแพทย์และพยาบาลก็พากันกุลีกุจอให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน โดยส่งให้พล พ ย า บ า ล นำคน เ จ็ บ เข้าห้อง ผ่ า ตั ด
ณ ห้อง ผ่ า ตั ด ใหญ่ห้องนั้น
คุณนายอรุณขอนิมนต์หลวงพ่อให้เข้าไปยืนด้านเหนือศีรษะเพื่อเป็นกําลังใจอยู่ด้วย
นายแพทย์นำเครื่องมือเข้ามาในห้อง พลางปลุกปลอบให้คนไข้ใจดี ๆ
แล้วนางพยาบาลก็ช่วยยกแขนซ้ายของคุณนายที่หนีบไว้แน่นออก พอแขนแยกจากกาย ลูก ก ร ะ สุ น ที่แนบติดกับเนื้อคุณนายก็ตกลงมา
มีรอยไหม้เกรียมตรงซอกรักแร้หน่อยเดียว นอกนั้นหาบาดแผลไม่เจอ
ทั้งนายแพทย์ ทั้งนางพยาบาลรวมทั้งคนป่วย ก้มลงกราบหลวงพ่อเงินเกือบจะพร้อมกัน แล้วหลวงพ่อก็ต้องเสียพระเครื่องในย่ามอีกหลายองค์ ณ โรงพยาบาลแห่งนั้น
ควรแก่การบูชา
บัดนี้หลวงพ่อเงินได้ถึงกาลมรณภาพตามกฎแห่งสังสารวัฏ แต่เกียรติคุณของท่านขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศ ไม่มีวันลืมเลือน ผู้คนยังคงให้ความเคารพสักการะท่านมิได้เปลี่ยนแปลง
ทุกคนยอมรับว่า หลวงพ่อเงิน จันทสุวัณโณ เป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติชอบ ได้ประกอบประโยชน์ไว้แก่พระพุทธศาสนา และแก่ประชาชนเป็นอเนกประการ นับเป็นปูชนียบุคคลที่มีคุณค่าควรแก่การกราบไหว้เป็นอย่างยิ่ง
ท่านหาได้เป็นแต่เพียงเทพเจ้าของชาวบ้านตอนยายหอมเท่านั้นไม่ แต่ท่านเป็นเทพเจ้าของชาวพุทธทั้งมวล