ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯใช้ปลุกเสกพระเครื่อง
ที่ทำให้เกิดอภินิหารมากมาย ทั้งแคล้วคลาดปลอดภัย โชคดีมีโชคมีลาภ ของดีหนึ่งเดียว ของเจ้าคุณนรรัตน์ฯ
เคยมีผู้สนใจได้กราบเรียนถามท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯว่า เมื่อสมัยครั้งที่ท่านยังเป็นฆราวาสอยู่นั้น ท่านมีพระเครื่องรางของขลังอันใดประจำตัวบ้างหรือไม่ ?? ซึ่งท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯก็เมตตาตอบว่า “มีอยู่องค์หนึ่ง เป็นพระของสมเด็จท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม กรุงเทพเรานี่แหละ…”
หมายเหตุ. ท่านพระนรราชภักดี บิดาของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯแต่เดิมนั้น ท่านเป็นศิษย์ของสมเด็จท่านเจ้ามา วัดสามปลื้มมาแต่เดิม และเคยประสพเหตุอภินิหารถูกคน ร้ า ย จ่อ ยิ ง ซึ่งหน้าแต่ปืนไม่ลั่นมาแล้ว
ด้วยเหตุดังกล่าว พระสมเด็จท่านเจ้ามา วัดสามปลื้มที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯมีไว้บูชาติดตัวนั้น ก็น่าที่จะได้มาจากบิดาท่านนั่นเอง แต่น่าเสียดายนัก ที่เมื่อคราวที่ตามเสด็จไปยังพระราชวังบางปะอิน ตอนขากลับท่านได้ลืมไว้ที่ห้องพักและหายไป
จากนั้นมา ท่านก็ไม่เคยมีพระเครื่องรางอันใดติดตัวอีกเลย โดยท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯได้เล่าต่อไปอีกด้วยว่า “แต่ก่อนนี้ ไม่ค่อยมีใครเลี่ยมพระ ส่วนมากใช้ลวดหรือด้ายถักแล้ว ใช้เข็มกลัดติดกระเป๋า แม้อาตมาก็ทำเช่นนั้น จึงได้ลืมเมื่อเอาออกจากกระเป๋าเสื้อ และบังเอิญต้องตามเสด็จกลับโดยกระทันหัน”
ต่อมา เมื่อท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา และได้เจริญธรรมและจิตจนมีปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะกับบรรดาพระเครื่องทั้งปวงที่ท่านได้อธิษฐานจิต จนเป็นบันลือลั่นไปทั่วทุกทิศานุทิศ เลยมีบางท่านสนใจใคร่รู้กราบเรียนถามว่า ท่านธมฺมวิตกฺโกนี้ ใช้พระคาถาบทใดปลุกเสกพระเครื่องกัน จึงมีอภินิหารมากมายนัก
ซึ่งท่านก็ได้เมตตาวิสัชนาอย่างสิ้นข้อกังขาในที่สุดว่า
“พระชินบัญชรคาถาของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง นั้น ดีที่สุด อาตมาใช้สวดอธิษฐานจิตพระเครื่องทั้งหลายอยู่เป็นประจํา..”
ทราบเป็นการภายในอย่างลับที่สุด ก็ได้ความสอดคล้องต้องกันว่า ในการอธิษฐานจิต พระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ สุดยอดสิ่งมงคลสักการะอันดับหนึ่งของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ
ที่ท่านถึงกับกล่าวว่า “กันนิวเคลียร์ได้จริงๆนะ”นั้น พระคาถาที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯใช้อธิษฐาน ก็ไม่พ้นไปจาก”ชินบัญชรคาถา”อีกนั่นแล้ว….. สาธุ……………………..
คาถาชินบัญชร โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา
ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ
ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจําสมํ่าเสมอจะทําให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง
ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ
ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วระลึกถึงหลวงปู่โตและตั้งคำอธิษฐานแล้วเริ่มสวด
เริ่มสวด นโม 3 จบ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งอธิษฐาน
ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง
อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา
อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ
เริ่มบทพระคาถาชินบัญชร
ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตวา มารัง สะวาหะนัง
จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.
หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ
โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล
กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.
เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว
กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก
โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี
เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ.
เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง
ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา
ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา
วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา
วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.
อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.