ผมรับราชการเป็นครูอยู่ทางภาคใต้ซึ่งตอนนั้นผู้ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองหรือที่เขาเรียกกันว่า โ จ ร ใ ต้ กำลังใช้ยุทธการดับแสงเทียน คือ คอย ฆ่ า ครูเป็นเป้าหมายหลักของยุทธการ นี้ครูถูก ฆ่ า เกือบทุกวัน หรือจะเรียกว่าทุกวันก็ได้
ธรรมดาผมจะใช้รถจักรยานขี่ไปสอนหนังสือเป็นประจําวันนั้นก็เหมือนทุกวันพอผมสอนเสร็จเด็กกลับแล้วแต่ผมยังคงตรวจงานเด็ก ๆจนเย็นประมาณหกโมงเย็น ผมเห็นเย็นมากแล้วและก็ใกล้จะมืด จึงขี่รถจักรยานกลับบ้านพอขี่มาได้ครึ่งทางตรงนั้นเปลี่ยวมากตรงข้างทางมีต้นมะม่วงป่าต้นใหญ่มากอยู่ต้นหนึ่ง
ผมได้ยินเสียงดังปัง ปั ง ปั ง ๆ ๆหลายสิบครั้งผมรู้ดีว่านั้นคือเสียง ปื น ผมกระเด็นไปเพราะแรง ก ร ะ สุ น ปื น รถจักรยานล้มลงผมรู้สึกเหมือนมีหมอกหรือแก้วขาว ๆ มาครอบตัวผมอยู่
เสียง ปื น สิ้นสุดลงสักพักก็มีชาวบ้านที่อยู่ไม่ไกลมานักวิ่งกันมาดูผมเสื้อผ้าชุดครูขาดเป็นรู ก ร ะ สุ น ปื น เต็มตัว รถจักรยานของผมขาดสองท่อนไม่นานนัก ตํ า ร ว จก็มาถึงที่เกิดเหตุและตรวจดูรอบ ๆพบว่าตรงโคนต้นมะม่วงป่ามีปลอก ก ร ะ สุ น ปื น อ า ก้ า ตกอยู่ สามสิบกว่าปลอก
ตํ า ร ว จต่างแปลกใจที่ผมไม่เป็นอะไรเลย และถามผมว่าอาจารย์มีอะไรดีครับผมกําลังตกใจตอนนั้นจึงลืมไปสนิทว่าในคอของผมมี เหรียญยันต์ดวงของหลวงปู่ดู่ อยู่หนึ่งเหรียญซึ่งเหรียญนี้เพื่อนสนิทของผมที่เป็นครูเหมือนกันให้มา
ตอนให้มันบอกว่า “มึ ง ไปอยู่ทางใต้กูรัก มึ ง เอาติดตัวไว้นะโว้ย”
ด้วยความรักเพื่อนผมเลยเกรงใจมันแขวนพระที่มันให้มาตลอดไม่คิดเลยว่าพระเหรียญยันต์ดวงนี้จะช่วยชีวิตของผมไว้ครูเพื่อนของผมมันเป็นลูกศิษย์ของ หลวงปู่ดู่วัดสะแก
บทสวดมนต์พระมหาจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
หลวงปู่ดู่ท่านได้รจนามนต์พระมหาจักรพรรดิ์
หลวงตาม้าท่านนํามาสอนให้ลูกศิษย์สวดกันทุกวันเวลา 20.30 น.
เมื่อสวดเสร็จจะแผ่เมตตา ซึ่งจะเรียกกันว่า “สัพเพฯ”
การสวดมนต์กับหลวงตาม้าเวลา 20.30 นี้ดีมาก
จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรื่อง พบแต่สิ่งดี ๆ
การศึกษาธรรมะต่าง ๆ ที่หลวงปู่ดู่ และหลวงตาม้า สั่งสอน
เป็นการสร้างพระแท้ ๆ ให้เกิดในกาย และจิตวิญญาณของเรา
ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ และหลวงตาม้า ต่างฝากดวงกำเนิด
ไว้ให้หลวงปู่ดู่ดูแล
ป้าไม่ทันได้กราบหลวงปู่เมื่อท่านยังดำรงสังขาร
แต่ได้ศึกษาคำสอนของท่าน และสวดมนต์ตามที่หลวงตาม้าสอนไว้
ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ประสบแต่สิ่งดี ๆ
หลวงตาม้าสอนว่า
ตื่นเช้าขึ้นมากราบพระแล้วกราบหลวงปู่ดู่ท่าน
แล้วขอไปตามปราถนา มีลูกศิษย์รุ่นใหญ่ท่านหนึ่งท่านเล่าว่า ตื่นเช้าขึ้นมา
ท่านจะพูดขอว่า “หลวงปู่ครับผมขอเงินสด” เนื่องจากลูกศิษย์ท่านนี้ท่านทำธุรกิจ
เคล็ดที่ไม่ลับ
เมื่อเราสวดมนต์บทพระมหาจักรพรรดิ์แล้วเราทํากิจการอะไรอยู่
ก็ยกกิจการนั้นให้หลวงปู่ดู่ท่าน ให้เป็นกิจการของท่าน ให้ท่านดูแล
เช่นเดียวกันกับการยกดวงกําเนิดของเราให้หลวงปู่ท่านดูแลรักษา
“แกไม่คิดถึงข้า แต่ข้าก็คิดถึงแก”
มีเรื่องเล่าสนุกๆจะมาเล่าให้ฟัง สําหรับบางคนที่ยังไม่เชื่อมั่นในพระเครื่องของหลวงตาม้าครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ดู่ท่านหนึ่งชื่อ เฮีย … (ไม่บอกดีกว่า) ก็ได้มากราบหลวงตาม้าหลังจากที่หลวงปู่ดู่ ม ร ณ ภ า พไปหลายสิบปีเฮียแกให้เหตุผลว่าหลังจากที่หลวงปู่ท่าน ม ร ณ ภ า พ ไป เฮียก็ไม่อยากจะไปหาครูบาอาจารย์องค์อื่นอีกเลย จนมาเจอหลวงตาม้าท่าน
ซึ่งเฮียบอกว่าตอนที่ไปหาหลวงปู่ดู่นั้น สมัยนั้นหลวงตาม้ายังเป็นฆราวาสแต่ก็ไม่เคยเจอกันแม้แต่ครั้งเดียวก็นับว่าเป็นเรื่องแปลก
จนถึงช่วงปีท้ายๆก่อนหลวงปู่ท่าน ม ร ณ ภ า พ หลวงปู่ดู่พูดบอกเหล่าลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดว่า ‘ข้าจะไปแล้วนะ’ ซึ่งตอนนั้นเฮียท่านนี้ก็อยู่พอดี เฮียและบรรดาศิษย์ได้ถามว่า ถ้าหลวงปู่ไม่อยู่แล้วใครจะมารับช่วงล่ะครับ และหลวงปู่ท่านบอกไว้ว่า “มีแล้ว แต่ไม่บอก เดี๋ยวอีกไม่นานพวกเอ็งจะเจอเอง” (ตอนนั้นหลวงตาม้าบวชแล้ว)
หลังจากนั้นเป็นสิบปีได้ เฮียได้ข่าวว่ามีลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ท่านหนึ่งมาอยู่ที่ อ.เชียงดาว ที่ถ้ำเมืองนะ ซึ่งก็คือ หลวงตาม้า นี่เอง ซึ่งเฮียก็ได้ติดตามมากราบและทําบุญซึ่งก็ได้รับพระผงสีขาวๆที่หลวงตาม้าท่านสร้างนี่แหละ
ด้วยความไม่มั่นใจ เฮียนําไปให้เพื่อนคนหนึ่งเป็นนักปฎิบัติที่ปฎิบัติมาทางสายป่าท่านหนึ่งเช็คพลังพระให้ ซึ่งเพื่อนคนนี้ไม่รู้จักทั้งหลวงปู่ดู่ และหลวงตาม้า ซึ่งพอให้เพื่อนคนนี้จับเขาบอกว่ายังไงรู้ไหมครับ
“พระองค์นี้ดีมาก เสกทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์” (ทั้งๆที่เขาไม่รู้จักหลวงปู่ดู่-หลวงตา มาก่อน)
และยังบอกเฮียทิ้งท้ายอีกว่า
หลวงปู่ที่เป็นอาจารย์ฝากมาบอกเอ็ง (หมายถึงเฮีย) ว่า
“เมื่อไหร่เอ็งจะหยุดขายพระข้ากินวะ”
ซึ่งเฮียบอกว่าตอนนั้นก็เป็นช่วงที่เฮียปล่อยพระหลวงปู่ดู่ที่มีบูชาเป็นบางส่วนอยู่พอดี เล่นเอาขนลุกไปเลยเฮียเล่า.
*เรื่องนี้ผมฟังมาเองกับหู เมื่อเดือนเมษายน 52 ที่ผ่านมา หากจะจำคำพูดไหนตกหล่นไปบ้างต้องขออภัยครับ แต่เนื้อหาเหมือนที่ผมเล่าทุกประการคร้าบผม