เบื้องล่างแผ่นดินหนองคายเป็นเมืองบาดาล ใต้หินหมากเป้งลึกลงไปจะเป็นถํ้าที่พักของเหล่าพญานาค
วัดหินหมากเป้งเป็นสถานปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน ของพระอริยะแห่งลุ่มนั้าโขงผู้เปี่ยมด้วยญาณตบะอันแก่กล้าและมหาบารมีแห่งธรรมะ เป็นที่เคารพสักการะแก่พุทธศาสนิกชนของไทยลาว วัดหินหมากเป้งอนุสรณ์สถานวิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ตั้งอยู่ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานของพระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโร และพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งท่านทั้งสองเป็นพระอาจารย์ใหญ่แห่งพระธุดงค์กรรมฐาน
หินหมากเป้งเป็นหินศักดิ์สิทธิ์สามก้อนอันเป็นที่มาและความหมายของวัดแห่งนี้ หลวงปู่เทศก์ได้กล่าวถึงหินหมากเป้งเอาไว้ว่า หินหมากเป้งเป็นชื่อหินสามก้อนซึ่งตั้งเรียงรายกันอยู่ท่านํ้าริมฝั่งโขง
ภายในบริเวณวัดมีรูปลักษณะคล้ายลูกตุ้มชั่งทองคําสมัยเก่า คําว่าลูกตุ้มชั่งชาวบ้านแถบนี้เรียกว่าเต่งหรือเป้งย้อยหรือหมากเป้ง คนแก่คนเฒ่าเล่าสืบต่อกันมาว่า หินหมากเป้งก้อนที่อยู่เหนือน้ำเป็นของหลวงพระบาง หินหมากเป้งก้อนกลางเป็นของบางกอกหรือกรุงเทพ หินหมากเป้งก้อนใต้เป็นของเวียงจันทน์ ต่อไปในการข้างหน้ากษัตริย์ทั้งสามนครจะมาสร้างหินหมากเป้งบริเวณนี้ ให้เจริญรุ่งเรือง
ความดังกล่าวคงเป็นผู้มีญาณวิเศษพยากรณ์ไว้เป็นแน่ จากสภาพป่าดงดิบเมื่อการก่อนนี้ บัดนี้อาณาบริเวณก้อนหินศักดิ์สิทธิ์สามก้อนเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจพุทธศาสนิกชนทั้งหลายดังที่ปรากฏ ภายหลังจากหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี มรณภาพคณะศิษย์ได้พร้อมใจกันสร้างหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนหลวงปู่เทสก์ขึ้น และอัญเชิญพระอัฐิธาตของหลวงปู่เทสก์บรรจุบนหลบแก้วครอบไว้เพื่อเป็นตัวแทนของดวงประทีบแหล่งลุ่มนํ้าโขง
พระธรรมคำสอนและวัตรปฏิบัติของหลวงปู่เทสก์ ให้พุทธศาสนิกชนทั้งใกล้ไกลได้มาเที่ยวชมวัดหินหมากเป้งได้ศึกษาและปฏิบัติ อาณาบริเวณวัดหินหมากเป้งและลุ่มนํ้าโขงแถบนี้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แม้เมื่อครั้งอดีตคนเฒ่าคนแก่บอกว่า บริเวณวัดหินหมากเป้งเป็นดินแดนเถื่อนและอาถรรพ์ที่ไม่ค่อยจะมีใครกล้าย่างกลายเข้ามาใกล้ ชีวิตคน ชีวิตสัตว์ป่าได้เคยสังเวยมานับศพไม่ถ้วนแล้ว ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มักมีเรื่องราวกล่าวขานเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ มหัศจรรย์ เกี่ยวกับเหล่ากายทิพย์เทวดาพญานาคกับพระอริยะสงฆ์ซึ่งเรามักจะเคยได้ยินเสมอๆ
ทั้งจาการบอกเล่าไว้ของอริยะสงฆ์เองและจากสัจจานุสิตนํามาบอกเล่าต่อๆกันว่า พระอริยะสงฆ์ท่านสามารถติดต่อกับเหล่าเทพ เทวดา พญานาคทั้งหลายได้ด้วยญาณวิเศษและบรรดาเทพ เทวดา พญานาคเหล่านั้น ต่างก็มาก็เข้ามาคอยรับฟังธรรมะจากพวกท่านอยู่เสมอ
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เคยบอกเล่าแก่ศิษย์ญาณุศิษย์ฟังว่า เบื้องล่างแผ่นดินของจังหวัดหนองคายเป็นเมืองบาดาลภายใต้หินหมากเป้งแห่งนี้ ลึกลงไปจะเป็นถํ้าที่พักของเหล่าพญานาคซึ่งเป็นโพลงถํ้าขนาดใหญ่โตมหึมา เป็นโพลงถ้ำที่ทอดทะลุถึงวัดพระพุทธบาทดอนแก้ว ใกล้วัดหินหมากเป้งอันเป็นรอยพระพุทธบาทองค์จริงอยู่ที่นั้นและโพลงถํ้ายังทอดทะลุไปโดยตลอดทั่วถึงกันทุกหนแห่งของอาณาบริเวณของเมืองพญานาค
ในวันดีคืนดีโดยเฉพาะวันพระเหล่าพญานาคที่คอยพิทักษ์รักษาวัดหินหมากเป้ง ก็จะพากันขึ้นมาเฝ้าฟังอรรถรสบทธรรมของหลวงปู่เทศก์ เทพรังสีแถวๆท่าน้ำบริเวณหินศักดิ์สิทธิ์สามก้อน ซึ่งหลวงปู่เทศก์เองก็ได้เทศนาโปรดพญานาคเหล่านั้น และท่านเองยังบอกเล่าว่าเคยลงไปพบพญานาคอยู่หลายครั้ง ที่วัดหินหมากเป้งแห่งนี้เคยมีบั้งไฟพญานาคปรากฏให้เห็นในวันออกพรรษา ซึ่งคนที่นี่เชื่อว่าเป็นดวงไฟที่พญานาคจุดขึ้นมาเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดหินหมากเป้งแห่งนี้
หลังจากหลวงปู่เทสก์ละสังขารในวันประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เทศก์ได้บังเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น โดยได้มีงูหลามขนาดใหญ่หลายตัวปรากฏกายให้ผู้ที่มาร่วมงานได้พบเห็นบริเวณใกล้ๆกับลานที่ประกอบพิธี บรรดาผู้พบเห็นต่างโจทย์ขานกันไปต่างๆนานาถึงงูลึกลับเหล่านั้น ว่าเป็นตัวแทนของพญานาคที่มีความเลื่อมใสศรัทธาขึ้นมาร่วมประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปูเทศก์ พองานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เทศก์เสร็จสิ้นบรรดางูเหล่านั้นก็ไม่ปรากฏกายให้ผู้คนได้พบเห็นอีกเลย