หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ท่านเป็นพระเกจิชื่อเสียงโด่งดังแห่งวัดสพานสูง จ.นนทบุรี มีวิทยาคมเข้มขลัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษเป็นต้นแบบการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรือง จนถึงปัจจุบัน มีลูกศิษย์ประชาชนทั่วไปต่างเข้าไปกราบสักการะไม่ขาดสาย มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวประวัติท่าน โดยเฟซบุ๊กชื่อ สุวิทย์ พุฒธรรม ได้ลงข้อมูลในกลุ่มชื่อ ศิษย์หลวงตาวาส วัดสพานสูง ไว้น่าสนใจว่า
หลวงปู่เอี่ยมท่านเกิดวัน ๕ ฯ ๒ ปีฉลู พ.ศ.๒๓๕๙ ก่อนท่านมรณะภาพ นายหรุ่น แจ้งมายังศิษย์ใกล้ชิดได้ถามหลวงปู่เอี่ยม ฯ ว่า “ท่านอาจารย์มีอาการเต็มที่แล้ว เกรงว่าจะไม่ฟื้น ถ้ามีอะไรดีได้กรุณาให้ศิษย์ไว้เป็นครั้งสุดท้าย” หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ได้กล่าวอมตะวาจาไว้ว่า “ถ้ามีเหตุสุขทุกข์เกิดขึ้นให้ระลึกออกชื่อถึงเราก็แล้วกัน” กำหนดตั้งศพท่าน พ.ศ.๒๔๔๓ ๑๕ ณ วัน ๕ ฯ ๕ ฌาปนกิจ ณ วัน ๗ ฯ ๕ เวลา ๑๖ น.
ภาพจากคุณสุวิทย์ พุฒธรรม
พระอธิการกลิ่นพร้อมด้วยคณะศิษย์เลื่อมใสศรัทธา จึงจัดการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่เอี่ยม ฯ ไว้เป็นที่สักการบูชา สิ้นเงิน ๓๖๒ บาท ได้ประดิษฐานไว้ที่ศาลาการเปรียญ ใส่ตู้กระจกครอบไว้ คนสมัยนั้นเรียก “หลวงปู่ในตู้” ทุกวันพระ ๘ ค่ำ จะอัญเชิญโกศบรรจุอัฐิหลวงปู่เอี่ยม ฯ จากห้องพระบนกุฎิเจ้าอาวาส ฯ ลงมาประดิษฐานที่ศาลาการเปรียญให้พระสงฆ์สามเณรอุบาสก อุบาสิกา สวดมนต์ถวาย
เมื่อพ.ศ.๒๔๗๐ หลวงปู่กลิ่นท่านเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถ ก่อสร้างแบบสมัยใหม่ โดยการผูกเหล็ก เทคอนกรีตทำเรือนอาคาร ฐานล่างใช้ซุงและตุมวางเรียงซ้อนกัน มิได้ตอกเสาเข็มซึ่งเป็นของเดิมสมัยหลวงปู่เอี่ยม โดยทุบอาคารอุโบสถเดิมยุคหลวงปู่เอี่ยมสร้างไว้เดิมออก ส่วนวิหารบูรณปฏิสังขรคงสภาพรูปแบบและขนาดเดิมไว้
ภาพจากคุณสุวิทย์ พุฒธรรม
จนบูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จในพ.ศ.๒๔๘๐ โดยด้านหน้าและหลังอุโบสถสร้างซุ้มเรือนแก้วไว้ และอัญเชิญรูปหล่อเหมือนหลวงปู่เอี่ยม ฯ จากบนศาลาการเปรียญลงมาประดิษฐาน ณ ซุ้มเรือนแก้วหน้าอุโบสถ และจัดให้มีการสมโภช ๗ วัน ๗ คืน โดยหลวงพ่อวาส ฯ เล่าให้ฟังว่า
หลวงปู่กลิ่น ฯ ได้ปรึกษาคณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ไว้ว่าเมื่อแล้วเสร็จจะกราบทูล สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ซึ่งเคยเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดสะพานสูงเจริญราษฎร์ เนื่องด้วยเมื่อครั้งนั้นทรงเสด็จมาพักรักษาพระวรกายที่ ตำหนักท่าน้ำ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ทรงเมตตาวัดสพานสูง และหลวงปู่กลิ่น ฯ เป็นพิเศษ จึงเสด็จมาเป็นองค์ประธานเปิด “สะพานสูงเจริญราษฎร์” เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๗ และทรงแสดงธรรมให้ญาติโยมฟัง อีกทั้งวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามมีงานจะมีฎีกาถึงหลวงปู่กลิ่นมิได้ขาด แต่ด้วยทรงมีโรคประจำตัวเมื่อเสด็จกลับวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามแล้ว อาการประชวรไม่ดีขึ้น ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๘๐ เสียก่อน
ในวันสิ้นพระชนม์นั้น หลวงพ่อวาส สีลเตโช ได้เล่าให้ฟังว่าหลวงปู่กลิ่น ฯ ท่านพูดให้พระสงฆ์ สามเณร อุบาสก อุบาสิก ฟังว่า
“สิ้นเสาหลักแล้ว ๆ ๆ ๆ”
ภาพจากคุณสุวิทย์ พุฒธรรม
ต่อมาภายหลังทางราชการได้ประกาศให้ประชาชนทราบ “เอ๊ะแปลกนะทำไมหลวงปู่กลิ่น ฯ ท่านทราบได้เร็วก่อนทางราชการจะประกาศเสียอีก หลวงปู่กลิ่นจึงจัดงานสมโภชอุโบสถในปีนั้น และรูปหล่อเหมือนหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ก็ประดิษฐานอยู่ในซุ้มเรือนแก้วหน้าอุโบสถจนถึงทุกวันนี้
หลวงปู่เอี่ยม ท่านละสังขารเมื่อ เวลา ๑๑ น. ๑ ฯ เดือน ๙ พ.ศ.๒๔๓๙ สิริรวมอายุ ๘๐ ปี ๕๙ พรรษา
ขอบคุณข้อมูล คุณสุวิทย์ พุฒธรรม