ปู่เปี่ยม ปานเปี่ยมเกียรติ ตำนานฆราวาสจอมขมังเวทย์โบราณ

คนโบราณในสมัยก่อน การที่ใครจะได้ถ่ายรูปนั้น คิดว่าจะต้องมีฐานะดีเลยทีเดียว เพราะเป็นยุคเริ่มต้นแห่งการถ่ายภาพ ในบทความนี้กล่าวถึงประวัติของ ปู่เปี่ยม  ปานเปี่ยมเกียรติ (แซ่ฮุย) ว่ากันว่าท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมและเป็นที่เคารพของมูลนิธิร่วมกตัญญู ประวัติท่านไม่ได้มีบันทึกไว้ค่อนข้างหายาก จะเป็นเรื่องอภินิหารจริงมากน้อยประการใดมิอาจทราบได้

ปู่เปี่ยม ปานเปียมเกียรติ  เดิมท่านมีเชื้อจีน นามสกุลเดิม แซ่ฮุย บ้านอยู่ริมคลองวัดหงส์ เกิด พ.ศ. 2367 ต้นรัชกาลที่ 3 เมื่ออายุครบอุปสมบท ได้บวชที่วัดราชสิทธาราม เรียนกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับกับพระญาณสังวร(บุญ)วัดราชสิทธาราม

ท่านไปๆมาๆ วัดพลับ วัดหงษ์ ออกธดงค์ทุกปี เรียนกรรมฐาน เรียนอักขระเลขยันต์ไสยเวทต่างๆกับอาจารย์ปะขาวฆราวาสที่วัดหงส์ บวชมาได้ 20 ปี จึงลาสิกขา ถึงมรณะกาลเมื่อ พ.ศ. 2453 เป็นปีเดียวกับที่รัชกาลที่ 5 กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิิ์ฯ ทรงมาเป็นศิษย์ เมื่อปู่เปี่ยมถึงมรณกาลปลงสังขารที่วัดหงส์ กรมหลวงชุมพรทรงมาเป็นประธาน พ่อปู่เปี่ยม ถ่ายภาพก่อนถึงมรณะกาล 7 วัน ชุดที่แต่งกายถ่ายรูป กรมหลวงชุมพรทรงประธานให้

การสักยันต์ของปู่เปี่ยม สูตรหมึกสักแบบโบราณจะผสมดีของสัตว์เช่นลิงไปด้วย มียันต์เหลี่ยมและยันต์กลมซ้ายขวา ยันต์มหาอุด เรียกยันต์นะปิดล้อมที่กระเดือกคอ การสักหนุมาน สุครีพ พาลี องคต ตามแต่จะเหมาะสม ยันต์ของท่านมีการสืบทอดในสำนักหลายแห่ง ศิษย์ตรงที่เรียนจากปู่เปี่ยมมีดังนี้
1.หลวงพ่อกึ๋น วัดดอนยานนาวา
2.อาจารย์รื่น นิลแนบแก้ว มีการถ่ายทอดสู่ ปู่สุพิศ ศรีราษฏร์
3.หลวงพ่อจำปา วัดสาลีโข มีการถ่ายทอดสู่ศิษย์ท่านต่างๆเช่น หลวงพ่อสมภพ อาจารย์ละห้อย

โดยศิษย์ที่เรียนจากปู่เปี่ยมผ่านสมาธิคือ พราหมณ์เซ่ง ท่านสิริธรรมาจารย์ในสมัยปู่เซ่งมีชีวิต มีการประทับทรงปู่เปี่ยมในบางครั้งและเคยผ่านคนในครอบครัวเพื่อบอกเหตุและรักษาโรค ศิษย์ที่มีการสักยันต์ผ่านการประทับทรงของปู่เปี่ยม มีในอดีต เป็นประธานมูลนิธิแห่งหนึ่งขอสงวนนามและเชื่อได้แน่ว่าท่านประทับทรงจริงและปัจจุบันท่านถึงแก่กรรมแล้ว

อภินิหารเสกหมาเน่า

วันหนึ่งปู่เปี่ยมนั่งอยู่ริมคลองวัดหงส์กับลูกศิษย์คนหนึ่ง ตอนนั้นมีหมาเน่าลอยน้ำมา ท่านก็เขี่ยหมาเน่าขึ้นมาริมฝั่ง แล้วเสกให้หมาเน่าเดินได้ ลูกศิษย์เห็นประจักแล้ว ปู่ก็เขี่ยหมาเน่าลงน้ำไปลอยไปตามเดิม

ตำราปู่เปี่ยม ปานเปี่ยมเกียรติ เรียนจากวัดพลับ ของหลวงปู่สุก ไก่เถื่อน เดินโพชฌงค์ 7
เข้าฌานมาที่สุข
1.ตั้งที่กลางสะดือ ภาวนาว่า สติสัมโพชฌงค์
2.ตั้งเหนือสะดือ 2 นิ้วมือ ภาวนาว่า ธัมมะวิริยะสัมโพชฌงค์
3ตั้งที่กลางหะทัย ภาวนาว่า วิริยะสัมโพชฌงค์
4..ตั้งที่ห้องสุดคอกลวง ภาวนาว่า ปีติสัมโพชฌงค์
5.ตั้งที่ท้ายทอย ภาวนาว่า ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
6.ตั้งกลางกระหม่อม ภาวนาว่า สมาธิสัมโพชฌงค์
7.ตั้งที่หว่างคิ้ว ภาวนาว่า อุเบกขาสัมโพชฌงค์
8.ตั้งที่กลางหะทัย ภาวนาว่า โลกุตรัง จิตตัง ฌานัง
จากผู้ใช้เฟซบุ๊คท่านหนึ่งได้ลงข้อมูลไว้ว่า เคยได้ยินย่าเล่าว่าปู่เคยติดคุกแล้วในเวลานั้นมีนางห้ามหรือเจ้าจอมท่านหนึ่งเกิดลูกตายทั้งกลม ด้วยความที่สตรีผู้นั้นเป็นที่ต้องพระหฤทัยขืนปล่อยไว้จะต้องตายทั้งแม่ทั้งลูก จึงประกาศหาคนดีมีวิชา ครั้งคุณปู่ได้เสกกล้วยแล้วบริกรรมเรียกเด็กที่ตายออกมา จนรักษาสตรีผู้นั้นไว้ได้จริงเท็จประการใดก้มิทราบ
ประวัติอีกตอนข้อมูลจาก พระวีระ สุขมีทรัพย์
ในสมัยนั้น มีพระภิกษุท่านหนึ่งที่เคยบวชที่วัดพลับ และสำเร็จวิชานี้ และต่อมาได้ลาสิกขาบทมาเป็นฆารวาส ชื่อว่า ปู่เปี่ยม ปานเปี่ยมเกียรติ และเป็นผู้ที่มีวิทยาคมเป็นที่เลื่อมใสจากคนทั้งปวง จนสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ ได้มาขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนรู้วิชาอาคม ดังนั้นวัดพลับในสมัยนั้นจึงเป็นวัดที่มีหลักในการปฏิบัติ สมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ซึ่งสามารถนำมาใช้ฝึกวิชา กำหนดจิต เดินธาตุ รักษาโรคได้ โดยใช้พลังจิตที่ฝึกดีแล้ว ตั้งเป็นองค์นิมิต ตามตำแห่งต่างๆ ในร่างกาย โดยเริ่มต้นจาก กำหนดจิตอยู่ใต้สะดือ ๒ นิ้ว เป็นที่ตั้งของธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ และเคลื่อนย้ายนิมิตไปยังตำแห่งต่างๆ ในร่างกาย เมื่อฝึกได้เชี่ยวชาญดีแล้วสามารถ กำหนดธาตุ เดินธาตุ นำไปรักษาโรคได้ เพื่อให้ธาตุต่างๆ ในร่างกายเกิดภาวะสมดุล จากธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่กำเริบ หย่อน พิการ จนเกิดโรค เมื่อธาตุสมดุล โรคก็หายเป็นปกติโดยไม่ต้องใช้ยา ซึ่งสมัยก่อนนั้นหมดยาที่เก่งๆ มักจะมีวิชาเหล่านี้ จึงเรียกว่า เป็นหมอเทวดา
จริงๆ แล้วมันไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์อะไรเลย แต่เป็นเพราะในสมัยก่อนเขานิยมฝึกจิตให้กล้าแข็ง และเมื่อทุกคนทำได้ ก็เรียกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้มีใครฝึกฝนจิตกล้าแข็งแบบนี้ มีก็เป็นส่วนน้อย จึงมองว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครก็ทำได้ ถ้ามีวิริยะ อุสาหะ ศึกษาปฏิบัติ
และในขณะนี้ ผู้ที่มีความรู้สอนวิชาเหล่านี้ ยังปรากฏชัดแจ้ง มีเพียงท่านเดียว คือ พระครูสิทธิสังวร(วีระ ฐานวิโร) หรือ หลวงพ่อจิ๋ว ซึ่งเป็นพระปฏิบัติกรรมฐานและเป็นพระธุดงค์มาก่อน ถ้าใครสนใจมาปฏิบัติ สามารถมาปฏิบัติได้ที่ คณะ ๕ วันพลับ มีห้องนั่งกรรมฐาน และขึ้นกรรมฐานกับพระอาจารย์ได้ และมีหนังสือมากมายให้เราบูชา
ขอบคุณข้อมูลจาก พระวีระ สุขมีทรัพย์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น คลิกอ่าน นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า